Page 310 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 310

286
เพราะฉะนั้น การกาหนดรู้นี่ รู้รูปรู้นาม ดูกายดูจิต ดูอาการเกิดดับ ของรูปนาม โดยธรรมชาติเราจะรู้สึกได้ทันทีเลย พอถามว่า ขณะนี้ใจรู้สึก เป็นยังไง ? บางทีก็มานั่งคิด... เอ๊! ใจฉันเป็นยังไง ? ที่จริงเราจะรู้สึกเลย ว่า อ๋อ! เฉย ๆ ว่าง ๆ เงียบ ๆ หรือรู้สึกสบาย ๆ เราจะรู้สึกทันทีว่าสิ่งที่ เขาเป็นอยู่นั้นเป็นอย่างไร แค่เรา “สังเกต” ก็จะรู้ว่าจิตเราเป็นอย่างไร นี่คือ ลักษณะของจิต นี่คือวิธีการต่อสู้กับอารมณ์ วิธีแก้ความง่วง จากเวทนามา ถึงความง่วงแล้ว...
การกาหนดอารมณ์ มีโยคีสงสัยว่า เมื่อพองยุบหายไป เหลือแต่ความ ว่างอย่างเดียว ว่างจริง ๆ นะ ถ้าความว่างจริง ๆ จะว่างแม้กระทั่ง “รูป” ที่ นั่งอยู่ ถ้าพองยุบหายไป แล้วยังมีรูปอยู่ ให้ไปรู้ที่ “จุดกระทบ” การที่เรารู้ที่ จุดกระทบที่รู้ว่านั่ง บางคนรู้ว่านั่งหนอ รู้ถูกหนอ รู้นั่งหนอ... จุดที่ต้องสังเกต ก็คือว่า จิตที่ทาหน้าที่รู้ ที่ไปกาหนดอาการนั่ง รู้แล้วเขาดับไปหรือเปล่า ? รู้ แล้วเขาดับไป ต้องกาหนดซ้าแต่ละครั้ง ใช่ไหม ? เรากาหนดซ้า รู้ว่านั่งหนอ รู้ว่านั่งหนอ... ตัวคากาหนดหรือตัวจิตที่ทาหน้าที่กาหนด เขามีอาการกาหนด แล้วเขาหมดไป แล้วต้องกาหนดใหม่หรือเปล่า ? สังเกตตัวนี้ เดี๋ยวอาการ เกิดดับก็จะปรากฏขึ้นมา อันนี้อย่างหนึ่ง
อีกอย่างหนึ่งก็คือว่า ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่อาการพองยุบหายไป แล้วมา ดูที่รูป ยังรู้สึกว่ามีรูปอยู่ มีตัวนั่งอยู่ แต่ไม่มีพองยุบ รูปที่นั่งอยู่มีลักษณะ อย่างไร ? มีความหนา มีความทึบ มีความโปร่ง มีความบาง หรือเป็นแค่ ขอบ ๆ เป็นเส้น ๆ อยู่ ? อันนี้สังเกตดี ๆ ถ้าเขามีความทึบ นั่นคืออารมณ์ ที่เราต้องรู้ต่อ มีสติเข้าไปรู้อาการที่มันทึบ ๆ ดูแล้วเขาเปลี่ยนยังไง ? เข้าไป กาหนดรู้อาการตรงนั้น ถ้าใส ๆ ก็ไปรู้ความใสที่รูปอีก เข้าไปแล้วความใสนั้น เขาเปลี่ยนยังไง ? ใสขึ้น หรือใสแล้วจางหาย ใสแล้วจางหาย... หรือเปล่า ? นั่นคืออารมณ์ที่ต้องกาหนดรู้ โดยที่เราไม่ต้องไปรอพองยุบ เพราะพองยุบ หายไปแล้ว


































































































   308   309   310   311   312