Page 315 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 315

291
อย่างไร เราแก้อย่างไร รู้แต่ว่าไม่ได้ดั่งใจ
อารมณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความเบื่อ หดหู่ ห่อเหี่ยว มีความสุข
มีความสงบ มีเวทนาทางกายเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเกิดจากการเจ็บไข้ได้ป่วย หรือ เกิดจากเวทนาสภาวะ เราก็ “ต้องกาหนดรู้” เวลาเรามีไข้ขึ้นมา แล้วมีสติ กาหนดรู้ แยกระหว่างจิตเรากับอาการไข้ จิตเราเศร้าหมองไหม ? อันนี้เป็น การฝึกเอาไว้เลยว่า พอถึงเวลาหนึ่ง เราจะได้ไม่ต้องไปทุกข์กับเขา แต่ต้อง รักษานะ ต้องหายามาทานด้วย ไม่ใช่มีไข้แล้ว ทน ทน ทน... โดยที่ไม่รักษา แต่ถ้าเรามีสติกาหนดรู้ สู้จริง ๆ จิตเรามีกาลัง บางอย่างก็หายได้! แต่ต้อง พิจารณาด้วยตัวเองว่าเราสู้ไหวหรือไม่ไหว
แต่ถ้าเป็นเวทนาที่เกิดขึ้น อย่างที่บอกว่า บางครั้งลักษณะการนั่ง ของเรา เราพยายามเกร็งตัวมากเกินไป นั่งตัวตรง แต่ข้างหลังยุบ แล้วเรา พยายามพยุงเอาไว้ เราจะปวดหลัง มันจะตึงเป็นเส้นจนถึงไหล่ แต่ถ้าข้าง หลังสูงนิดหนึ่ง มันจะเป็นตัวหนุนและไม่ยุบ อาการเวทนาก็จะเกิดช้านิดหนึ่ง เพราะฉะนั้น ขอให้สังเกตดูนะถ้ามีอาการปวดตึงในขณะนั้น แต่ถ้าให้ดีก็คือ นั่งพื้นแข็ง ๆ แล้วตัวเราจะนิ่ง มันไม่ยุบ เมื่อไม่ยุบ อาการปวดหลังก็จะน้อย อันนี้คือตามหลัก ลองสังเกตดูแล้วกัน ใครที่ปวดหลังแล้วนั่งนิ่ม ๆ มันจะ ต้องใช้กาลังมากกว่าปกติ ร่างกายเราต้องเกร็งมากกว่าปกติ ขอฝากเอาไว้
วันนี้ก่อนที่จะเลิก เรามาแผ่เมตตาอีกนิดหนึ่ง ทุกวัน ๆ ที่เราทา บุญมา... ทาบุญตรงไหน ? บุญที่เกิดจากการปฏิบัติธรรมของเรานี่แหละ “ภาวนามัย” บุญที่เกิดจากการภาวนานั้นมีอานิสงส์มาก มีอานิสงส์มากเพราะ อะไร ? เพราะใจเราปราศจากกิเลส หรือเพราะจิตที่ผ่องใส จิตที่เป็นมหา กุศลตรงนี้แหละจึงเป็นอานิสงส์มาก ไม่ว่าเราปรารถนาสิ่งใด แผ่ให้ใคร พ่อ แม่ญาติพี่น้อง เขาก็จะได้รับ ท่านกล่าวไว้ว่า “ถ้าอยากให้พ่อแม่พี่น้องได้รับ อานิสงส์ ก็จงเจริญสมถะและวิปัสสนากรรมฐาน”


































































































   313   314   315   316   317