Page 337 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 337

313
จริง ๆ ใจเขาบอกว่าเป็นเราหรือเปล่า ? เขาก็ไม่บอกอีก! เขาก็ทาหน้าที่ของ เขาอยู่อย่างนั้น คิดดูสิ ขณะที่กาลังหลับสนิทอยู่ มีเสียงดังเข้ามา จิตก็ยัง ตื่นขึ้นมารับรู้ ยังสะดุ้ง ยังนอนไม่หลับ เราอยากจะหลับแต่เขาก็ไม่หลับ นั่น เป็นตัวบอกว่าเขาไม่ใช่ของเรา เขาทาหน้าที่ของเขา เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่ง ที่อาศัยอารมณ์ อาศัยเหตุปัจจัยเกิดขึ้นมาแล้วก็ดับไป
เพราะฉะนั้น มาดูว่ากลับบ้านแล้วจะปฏิบัติอย่างไร ? ถามอาจารย์ อาจารย์ก็บอกว่าปฏิบัติแบบนี้แหละ! ปฏิบัติแบบไหน ? ปฏิบัติธรรมอย่างไร กลับบ้านไปแล้วไม่ทุกข์ ? อยู่ที่บ้านทาอย่างไรเราถึงจะไม่ทุกข์ ? เพราะเรา มาอยู่ที่นี่ เราปฏิบัติเราพิจารณาอาการของรูปนาม จนเห็นว่ามันไม่มีอะไรเป็น ของเรา แล้วกลับบ้านไป เราไปยึดอะไรว่าเป็นของเรา ? อันนี้แหละน่าคิด! พอทิ้งบ้านมา บ้านไม่ใช่ของเรา พอกลับบ้านไป ก็เป็นของฉันเหมือนเดิม ใช่ไหม ? แปลก!
บางคนไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ทิ้งบ้านมา บ้านก็ “ติด” มาด้วย ขนาด อุตส่าห์ออกไกลบ้านแล้วนะ บ้านยังติดมาด้วยเลย แบกมาด้วย เดินแบบ หนักมาเลย! แต่บางคนพอออกจากบ้าน ก็วางไว้ตรงนั้นแหละ แต่ห้าวันนี้ รู้สึกว่าแต่ละคนเริ่มรู้จักวางแล้ว วางไว้ตรงนั้นแหละ! บ้านก็วางไว้ที่บ้าน อะไรเกิดตรงไหนก็วางไว้ตรงนั้นแหละ ขอให้เราได้อิสระนิดหนึ่งก็ยังดี ที่เป็น อย่างนี้เพราะว่าปัญญาและสติของเรามีกาลัง เรามีสมาธิ สติ และพิจารณาดู ถึงอาการของรูปนามของเรา
ที่เขาบอกว่า เราสนใจแต่อารมณ์ภายนอก เรื่องราวนอกตัวเสียเป็น สว่ นใหญ่ จนไมส่ นใจตวั เอง ไมเ่ คยสนใจสภาพจติ ใจของตนเองวา่ เปน็ อยา่ งไร เราจะรู้ต่อเมื่อเขา “ได้รับผล” ที่เกิดขึ้นแล้ว เราจะรู้ก็ต่อเมื่อความทุกข์เกิด ขึ้นแล้ว จึงจะรู้ว่าทุกข์ บางครั้งแบกทุกข์ตั้งนานกว่าที่จะวางทุกข์ได้ บางครั้ง กว่าที่จะรู้ว่าเป็นทุกข์ก็ไม่ไหวแล้ว ที่บอกว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้เรื่องทุกข์ การ เกิดเป็นทุกข์ ความแก่เป็นทุกข์ ความตายเป็นทุกข์... ทุกข์ สมุทัย นิโรธ


































































































   335   336   337   338   339