Page 343 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 343
319
กรรม! แสดงว่าไม่ได้ติดที่ชื่อแล้วนะ (โยคีกราบเรียนว่า ทั้งหมดเลย) เอา ความรู้สึกว่าเป็นเราออกหรือยัง ? (โยคีกราบเรียนว่า ยังเลย) อย่าแค่คิดนะ ต้องทาจริง ๆ!
การศึกษาธรรมะ ไม่ใช่รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม การศึกษาธรรมะ รู้ แล้วต้องทาตาม ถึงจะได้ประโยชน์! รู้ว่าสติดี แต่ไม่เคยใช้สติเลย จะดีได้ ยังไง ? รู้ว่าสมาธิดี แต่ไม่เคยฝึกเลย จะมีสมาธิได้ยังไง ? อยากมีสมาธิ แต่ไม่เคยสนใจนั่งสมาธิเลย รู้ว่าดีแต่ทาไม่ได้! “ทาไม่ได้” กับ “ไม่ได้ทา” คนละอย่างกัน! บางคนอยากจะทา แต่ไม่ค่อยได้ทา แล้วก็บอกว่าทาไม่ได้ ยังไม่ได้ลงมือทาเลย “ฉันทาไม่ได้!” ความหมายคนละอย่างกัน แต่ถ้าทาแล้ว ทาไม่ได้ เราจะได้รู้ว่าเราทาแบบไหนถึงทาไม่ได้
วิธีที่ทาให้เรามีสมาธิก็มีหลายแบบ แล้วแต่จริตของเรา การปฏิบัติ ธรรมนี่ พิจารณาดูจริตของเราว่าวิธีไหนที่เหมาะสมกับจริตของเรา แล้วเรา ก็เดินแนวทางนั้นแหละ จะได้ไม่สะดุด คาว่า “ถูกจริต” เราจะรู้ได้อย่างไร ? เป็นเรื่องยาก ใช่ไหม ? บางทีเรากาลังหาอยู่ว่า ธรรมะแบบไหนจะถูกจริต กับเรา ? บางทีเราก็งง ๆ ว่าเราเป็นคนจริตแบบไหน อาจารย์คนหนึ่งบอก เธอเป็นพุทธิจริต... เหรอ!? ยังไม่รู้ตัวเองว่าเป็นพุทธิจริต บางคนอาจารย์ว่า เป็นโมหะจริต... เสียใจ แย่แล้ว! เรามีโมหะจริต คงไม่มีปัญญาที่จะสามารถ รู้ธรรมได้หรอก! บอกเป็นโทสะจริต... พอรู้ว่าเป็นโทสะจริต เราเป็นคนมี อารมณ์รุนแรง ขี้โมโห จะปฏิบัติอย่างไรถึงจะเหมาะสมกับจริตของเรา ?
วิธีสังเกตง่าย ๆ เราอาจจะไม่รู้หรอกว่าเราเป็นคนจริตแบบไหน หรือใครรู้แล้วก็ดี ให้สังเกตว่าเราปฏิบัติอย่างไร เราปฏิบัติแบบไหน แล้ว ทาได้ง่าย เข้าถึงธรรมะได้ง่ายสาหรับเรา อันนั้นเป็นวิธีการที่เหมาะกับเรา ทีนี้ เราจะรู้ได้ยังไงว่า วิธีการปฏิบัติแบบไหนที่เราเข้าถึงธรรมได้ง่าย ? เราก็ ต้องมาดูว่า ที่เราปฏิบัติธรรมนี่ ปฏิบัติไปเพื่ออะไร ? เราต้องการแก้อะไร ? สมมติว่า เราต้องการแค่แก้โทสะ เราเป็นคนเจ้าโทสะ ต้องการระงับโทสะ
