Page 372 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 372

348
เอาอาหารมาให้เขา เขาก็อยู่บ้านเรา พอมาอาศัยบ่อย ๆ ก็กลายเป็นเจ้าบ้าน เราก็ไม่มีที่อยู่ เราก็ซัดเซพเนจรไป กลายเป็นสัมภเวสี ชอบไปอยู่บ้านคนอื่น คนนั้นอย่างนั้น คนนี้อย่างนี้ คนนั้นใจไม่ดี คนนี้สภาพจิตไม่ดี... มัวแวะไป บ้านคนอื่น บ้านตัวเองเลยทิ้งเอาไว้ ให้เขายึดเสียแล้ว แล้วเขามาแบบ เปิดเผยด้วยนะ ถ้าอยู่นานเกิน ๑๐ ปีแล้ว ไม่ผิดกฎหมาย ใช่ไหม ? เพราะ ฉะนั้น เราก็เหมือนกัน จิตของเราอย่าให้เขาเอามาเป็นเจ้าบ้าน ที่บอกว่า จิตเดิมแท้เป็นประภัสสร ที่จิตเศร้าหมองเพราะกิเลสจรมาเท่านั้นเอง
สังเกตไหม สภาพจิตเราส่วนใหญ่ไม่ได้ขุ่นมัวตลอดเวลา จะขุ่นมัว ก็ต่อเมื่อมีอารมณ์เข้ามากระทบ เมื่อมีอารมณ์เข้ามากระทบ แล้วสติเรารู้ ไม่ทัน หรือไม่พร้อมที่จะดับ แทนที่จะปิดประตู พอกระทบปุ๊บ เปิดประตูรับ เต็มที่ เลยมาแน่นอยู่ในบ้านเรา จุกอก! พอแน่นอึดอัดขึ้นมา ทายังไง ? พอ แน่นแล้ว แทนที่จะเปิดให้เขาออก กลับปิดประตูล็อคเอาไว้ สังเกตดูสิ เรา จะข่มจะกดเอาไว้ แทนที่จะเปิดให้เขาออก กัดฟันแล้วก็ข่ม ข่ม ข่ม... ต่อไป ก็กลายเป็นเก็บไว้เยอะ ๆ เข้ามาอีกก็เก็บอีก เก็บอีก เก็บอีก... พอมันแน่น เราก็กดเอาไว้ เพื่อให้มันแฟบลง อาจารย์นึกถึงเวลาเขากดกระป๋องโค้กนะ... ก็เลยกลายเป็นคนเก็บกด
วิธีแก้ พอเข้ามาแล้ว ขยายจิตเราให้กว้าง บ้านเราเปิดประตูหมด เขาก็ทะลุหมดเลย จิตของเราปล่อยให้กว้าง ไม่มีตัวตนปุ๊บ เขาก็ตั้งอยู่ไม่ได้ พื้นบ้านก็ว่างเปล่า ผนังก็ว่างเปล่า ไม่ล็อคเลย ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ผ่านมา แล้วก็ผ่านไป กลายเป็นอากาศ เป็นธรรมชาติ... เกิดขึ้นแล้ว เดี๋ยวมันก็ผ่าน ไป เดี๋ยวก็ผ่านไป เลือกเอา! อะไรเข้ามาอันไหนดีไม่ดี ก็เลือกเอา ไม่ใช่เก็บ หมด กดไปทั้งหมด เรากลายเป็นคนเก็บกด ไม่ดี! กดมาก ๆ มันระเบิดขึ้น มาที กระจาย! เศษขยะทั้งนั้นแหละกระจายออกมา... ขยะอารมณ์!
เวลาเรารับรู้อารมณ์อย่างไม่มีตัวตน อานิสงส์เป็นอย่างไร ? ทาใจให้ ว่างเหมือนอากาศ ทาใจให้กว้างเหมือนมหาสมุทร ทาใจให้มั่นคงเหมือน


































































































   370   371   372   373   374