Page 378 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 378

354
สักที ใช่ไหม ? ปัจจุบันเป็นยังไง ? ทั้ง ๆ ที่มันผ่านไปแล้ว นี่คือตัวสัญญา เขาเรียกไปขุดคุ้ยของเก่ากลับมา แล้วก็มาปรุงแต่งต่อ ทั้ง ๆ ที่มันไม่มีอะไร มันผ่านไปแล้ว ถึงเราจะเสียดายยังไง เรากลับไปทาไม่ได้หรอก อดีตเพียง แต่เป็นครูสอนเราเท่านั้นแหละ เราก็ยังเป็นนักเรียนตลอดชีวิต เราก็ต้อง ศึกษาอารมณ์ต่าง ๆ ตลอดชีวิต เรียนไม่จบหรอกสิ่งรอบตัวเรา แต่เรียน ธรรมะ เรียนการละกิเลสนี่ เรียนจบ!
สิ่งที่อยู่รอบตัวเราเรียนไม่จบ เพราะมีสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอด มี ผู้รู้ใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา ถ้าวิ่งตามตลอดเวลา เราก็เหนื่อยเหมือนกัน พระพุทธเจ้าสอนให้เราหยุด “ดูตัวเอง” พอกิเลสเราหมดลง เราควรจะวิ่ง ตามอะไร ? วิ่งแล้วเหนื่อยไหม ? ถ้าเราหยุดเป็นยังไง ? สิ่งที่มีอยู่แล้วดี อย่างไร ? ทรัพย์ที่มีอยู่แล้ว จิตที่ว่าง จิตที่สงบ จิตที่ไม่มีตัวตน ดีอย่างไร ? แล้วเรากาลังวิ่งตามหาอะไร ? ถ้าบอกตัวเองได้ เราก็รู้ว่าควรจะหยุดตรงไหน ควรจะวางตรงไหน ควรจะอยู่อย่างไร ถึงจะสงบสุข ถึงจะมีความสุข
วันนี้ก็ขอจบไว้แต่เพียงเท่านี้ก่อน เดี๋ยวต่อไปก่อนที่จะลุก ให้เรานั่ง สงบ ทาจิตให้ว่าง เพิ่มความสุขให้ตัวเอง เติมพลังแล้วก็แผ่เมตตา ก่อนที่ เราจะแผ่เมตตา ทาจิตของเราให้มีพลัง มีความเป็นกุศล น้อมถึงบุญที่เราได้ ทา หรือน้อมถึงจิตที่มีความสุข มีความอ่อนโยน ความนิ่มนวล หรือความ อิ่มใจ อย่างใดอย่างหนึ่ง เติมให้เต็ม แผ่ออกไปให้กว้าง แล้วก็ตั้งจิตอธิษฐาน ปรารถนาว่าผลบุญกุศลที่เราได้ทานี้ จะแผ่ให้ใครบ้าง...
แผ่ให้กับผู้มีพระคุณทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ เทวดาที่อยู่ในสากลโลก อินทร์ พรหม ยม ยักษ์ต่าง ๆ ถ้ารับรู้ถึงบุญกุศล ที่เราได้แผ่ออกไป ขอให้อนุโมทนาในส่วนบุญกุศลที่เราได้ทา รวมทั้งเพื่อน ร่วมโลก เกิด แก่ เจ็บ ตาย ก็ให้ได้รับอานิสงส์ผลบุญกุศลอันนี้ด้วย เมื่อ อนุโมทนาผลบุญกุศลที่เราได้ทาแล้ว ถ้ามีทุกข์ก็ขอให้พ้นทุกข์ ถ้ามีสุขขอให้ สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป ถ้ามีเวรมีภัยต่อกันก็ขออโหสิกรรมซึ่งกันและกัน เพื่อความ


































































































   376   377   378   379   380