Page 383 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 383

359
เพียรที่จะกาหนดรู้ถึงอาการพระไตรลักษณ์ เพียรที่จะกาหนดรู้ถึง ผลที่เกิดขึ้น หรือสภาพจิตที่ปรากฏขึ้นมา จากการกาหนดรู้อาการพระ ไตรลักษณ์ของเราว่าเป็นไปในลักษณะอย่างไร เพียรที่กาหนดรู้อาการเกิด ดับของรูปนามในแต่ละขณะ แต่ละขณะ ในแต่ละอารมณ์ที่ปรากฏขึ้นมา เกิดดับเปลี่ยนไปในลักษณะอย่างไร สภาพจิตใจเป็นอย่างไร ถ้าไม่กาหนดรู้ ในลักษณะอย่างนี้ เราก็รู้แค่ว่าวันนี้มีความคิดน้อย หรือวันนี้มีความคิด เยอะแยะมากมายทั้งบัลลังก์ นั่งแล้วกาหนดอะไรไม่ได้เลย มีแต่ความคิด อย่างเดียว...
เมื่อมีความคิดเกิดขึ้น สิ่งที่ต้องทาก็คือ พอใจที่จะกาหนดความคิด เพราะความคิดนั่นแหละคืออารมณ์ คือสภาวธรรมที่เกิดขึ้น ให้กาหนดรู้ว่า ความคิดที่ปรากฏขึ้น เกิดดับในลักษณะอย่างไร ? เกิดในบรรยากาศแบบ ไหน ? เกิดอยู่ในที่ว่าง ๆ ? เกิดอยู่ในความสงบ ? เกิดอยู่ใกล้ ๆ ตัว ? เกิดอยู่ในตัว ? หรือว่า ความคิดนั้นเกิดอยู่ไกล ๆ ? สิ่งเหล่านี้ต้องมีเจตนา ที่จะกาหนดรู้ จะได้เห็นว่าอารมณ์ที่ปรากฏขึ้นมา อยู่ใกล้หรืออยู่ไกล ? มีผล ต่อจิตใจเราอย่างไร ?
ถ้าความคิดนั้นเกิดอยู่ภายในตัว มีรสชาติไหม ? ให้ความรู้สึกเป็น อย่างไร ? ถ้าเกิดอยู่ไกล ห่างตัวออกไป สภาพจิตใจรู้สึกอย่างไร ? ถ้าเกิด อยู่ห่างออกไปอีก เกิดตรงไหนให้เขาดับอยู่ตรงนั้น สภาพจิตใจเป็นอย่างไร ? และถ้าเกิดอยู่ที่ตัว อย่างที่พูดเมื่อกี้ แล้วไม่มีตัวรองรับ สภาพจิตใจจะเป็น อย่างไร ? ล้วนแล้วแต่จะมีความแตกต่างกันทั้งสิ้น สิ่งเหล่านี้แหละเป็นสิ่ง ที่ผู้ปฏิบัติจะต้องพิจารณา ต้องสังเกต ต้องกาหนดรู้ เพราะแต่ละขณะ แต่ละตาแหน่งที่เขาเกิด ให้ผลที่แตกต่างกันออกไป จะได้รู้ว่าความคิดที่เกิด ขึ้นมา ปรุงแต่งจิตเราอีกไหม ? มีการปรุงแต่งต่อ มีการสร้างภพชาติต่อไป หรือไม่ ? หรือเป็นแค่เพียงสภาวธรรมที่ปรากฏขึ้นมาให้เรารับรู้ ให้เราศึกษา ทาความเข้าใจ กาหนดรู้ถึงการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป


































































































   381   382   383   384   385