Page 391 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 391

367
ขึ้น แต่ไม่เห็นลักษณะของจิต บางครงั้เวลาเราพอใจเราแคร่สู้กึพอใจแลว้มคีวามสขุแตบ่รรยากาศ
ของความสุขเป็นอย่างไรจะไม่เห็น แค่รู้สึกว่าดี มีความสุข แต่บรรยากาศ ของความสุขจะไม่ชัด ถ้าจับความรู้สึกไม่ได้หรือไม่เห็นจิตตัวเอง ไม่เห็น บรรยากาศของความรู้สึก ไม่เห็นบรรยากาศรองรับ แค่รู้แต่ว่ามีความสุข การ ที่เราจะเห็นจิตเราได้ หรือเห็นสภาพจิตชัด ต้องเห็นบรรยากาศที่รองรับด้วย ถ้าเห็นบรรยากาศที่รองรับว่าเป็นสุขเหมือนกับที่เรารู้สึก ข้างในก็สุข บรรยากาศรอบ ๆ ตัวก็สุข อันนั้นคือเห็นสภาพจิตตัวเอง ตรงนี้จะชัด! ตรง ที่ชัดเป็นเพราะเราแยกนามกับนาม และเป็นการเห็นจิตในจิต ไม่ใช่แค่รู้ว่า เป็นสุข
สังเกตนะ ทุกคนก็เคยเจอความสุข ถึงแม้ไม่ได้ปฏิบัติ ก็เคยสัมผัส กับความสุขด้วยกันทั้งนั้น แต่เป็นความสุขที่รู้สึกว่า “เรา” สุข รู้แต่ว่าสุขขึ้น มา ไม่มี “ผู้ดู” ความสุข ก็แยกนามไม่ได้ เพราะฉะนั้น เมื่อมีความสุขเกิดขึ้น มา ก็ “ฉัน” สุข “ฉัน” มีความสุข แต่ถ้าแยกรูปนามได้ แยกนามกับนามได้ ก็จะรู้สึกว่ามีความสุขเกิดขึ้น และความสุขนั้นไม่บอกว่าเป็นเรา มีแต่ “จิตที่ ทาหน้าที่รู้” กับ “ความสุข” ที่เกิดขึ้น นี่เป็นการดูจิตในจิต จะเห็นว่ามีแต่ใจ รู้กับความสุขที่เกิดขึ้น ตรงนี้เป็นเวทนาทางจิต
พอมีแต่ใจรู้กับความสุข สังเกตให้ละเอียดขึ้นก็คือว่า ขณะที่เป็นผู้ดู ความสุข ตัวผู้ดูเขาสุขด้วยหรือเปล่า ? หรือตัวผู้ดูเฉย ๆ อยู่ แต่บรรยากาศ รอบ ๆ เต็มไปด้วยความสุข ? ถ้าเห็นแบบนี้ ความสุขก็จะดับไปเร็ว แต่ถ้า ผู้ดูสุขด้วย มีรสชาติเดียวกันกับบรรยากาศ ลองดู สภาพจิตจะเป็นอย่างไร ? พอไปดูที่ผู้ดู ผู้ดูก็สุข บรรยากาศเปลี่ยนไปอย่างไร ? เมื่อบรรยากาศเปลี่ยน มีความสุขมากขึ้น และผู้ดูก็สุข ก็จะกลายเป็น “ความสุขดูความสุข” แล้ว รู้สึกอย่างไร ? เหลือแต่ใจที่ทาหน้าที่รู้กับความสุขที่เกิดขึ้น แม้ตัวผู้รู้เองก็มี ความสุข ถ้าเป็นอย่างนั้น เราจะสุขจากข้างในออกมา ไม่ใช่แค่เป็นผู้ดูความ


































































































   389   390   391   392   393