Page 414 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 414

390
เกี่ยวเลย เรื่องของเขายังเข้าถึงใจเรารบกวนใจเรา สังเกตว่า มีตัวตนไหม ? ไม่มีตัวตนแล้วอารมณ์นี้เข้ามายังไง ? ตรงนี้เป็นผัสสะอย่างหนึ่ง ผัสสะที่เข้า มาทาไมกระทบถึงใจ ? ตรงนี้สังเกตนิดหนึ่ง ให้รู้ว่าถ้าอารมณ์ภายนอกนั้นมี กาลัง เขากระทบจิตเรา มีผัสสะเกิดขึ้น เวทนาเกิดขึ้นตามมา เรารู้เวทนาที่ เกิดขึ้นแล้วดับอย่างไร
เวทนาตณั หาเกดิ ขนึ้ อปุ าทานเกดิ ขนึ้ อปุ าทานเรอื่ งอะไร?ยดึ อะไร? ตรงนี้มันละเอียด ไปยึดว่าเป็นเรา รบกวนเรา ก็ยึดเอาคาว่า “เรา” รบกวน เราก็คือยึดเรา แต่ถ้าไม่มีเรา แค่รู้สึกว่ามันวุ่นวาย ไม่ได้รบกวนเรา แต่รู้สึก ว่ามันทาให้วุ่น ๆ ๆ ๆ พอเรารู้ ไปดูความรู้สึกที่รู้ว่าวุ่นวาย แล้วเขาเปลี่ยน อย่างไร หรือเอาสติของเราไปดูความวุ่นวาย เขาเปลี่ยนอย่างไร ดับอย่างไร สังเกตแบบนี้ พอไม่มีตัวตนแล้วจิตว่างจิตสงบ อาการที่เหมือนกับวุ่นวายเขา เกิดอยู่ในที่ว่าง ๆ แล้วตัวไหนที่บอกว่าเป็นเรา ? ตัวไหนคือสภาพจิตของเรา ? อันนี้ต้องสังเกตนะ อันนี้เขาเรียก “ดูจิตในจิต”
สภาวะที่เกิดขึ้น ถ้าพิจารณาอย่างนี้ อ๋อ! ไม่มีตัวตน อารมณ์แบบนี้ก็ เกิดขึ้นได้ ไม่มีเรา อารมณ์เหล่านี้ก็เข้าถึงใจแล้วเป็นอย่างนี้เอง... พอกระทบ ขึ้นมา มีอาการเกิดขึ้น อ้อ! เป็นอย่างนี้เอง ไม่มีตัวตนแล้วทาไมเข้าถึงได้ ? อันนี้เราบอกตัวเองได้ พิจารณาแล้วเข้าไปดูให้ชัด ดูให้ชัด ๆ ในความรู้สึก ของเรา เป็นการบอกตัวเองว่าสภาวะที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร มันเกิดจากกิเลส ของเราหรือเปล่า ? เกิดจากความลาเอียงของเรา ความไม่พอใจของเรา หรือว่าไม่เกี่ยวกับความไม่พอใจเลย แต่ทาไมมันเป็นอย่างนี้ ? ตรงนี้ความ ละเอียดของเขา ถ้าเราสงสัยก็เข้าไปรู้ให้ชัด ดูอย่างนั้น
เพราะฉะนั้น การที่เราพิจารณาสภาวะที่เกิดขึ้น ที่บอกว่าดูสภาพจิต ว่าเป็นอย่างไร ดูอาการเกิดดับเปลี่ยนไปอย่างไร รู้อย่างนั้นแหละ ดูสภาพจิต เปลี่ยนอย่างไร สมมตินะ เมื่อเช้าแค่เบา ๆ แต่พอมาปฏิบัติ เดินจงกรม นั่ง สมาธิ ตอนเย็นกลายเป็นว่าสงบ นิ่ง ๆ ไม่เบานะ มันรู้สึกสงบนิ่ง แต่ไม่เบา


































































































   412   413   414   415   416