Page 433 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 433

409
ต่างกัน ลักษณะอาการเกิดดับก็จะต่างไป ความรู้สึกที่มั่นคงก็จะดับอีก แบบหนึ่ง ความรู้สึกที่ใส อาการดับของอารมณ์ก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง ความ รู้สึกนิ่มนวล อาการดับของอารมณ์ก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง
เพราะฉะนั้น เวลาเรากาหนดอาการเกิดดับแต่ละครั้ง สังเกต เวลา เราเจาะสภาวะไปสักพัก จิตเรารู้สึกใสขึ้น ใสขึ้น... อาการเกิดดับเป็นแบบนี้ พอสักพักความใสหายไป เหลือแต่ความมืด เงียบ... ตรงนี้อย่างหนึ่งอยาก ให้สังเกต บางครั้งเราไปติดตรงที่ว่ามันมืดอย่างเดียว ตรงที่มืดให้ความรู้สึก อย่างไร ? เป็นความเงียบ เป็นความสงบ เป็นความสงัด หรือแค่มืดเฉย ๆ ? มืดเพราะไม่มีอะไร หรือมืดแล้วมี ? ตรงที่ “มี” ในความมืดคือมีอะไร ? คือ มีความรู้สึกที่เงียบ สงบ สงัด ว่างเปล่า หรือเป็นความเงียบที่ให้ความรู้สึก ว่ามีกาลัง ? ตรงนี้ต้องสังเกตนะ
บางทีเรารู้สึกเงียบ ๆ แต่ส่วนใหญ่ก็คือเงียบแบบไม่มีกาลัง เพราะ อะไร ? สติอ่อน เงียบแบบเบลอ ๆ มืด! พอมืดปุ๊บ ไม่ดีเลยอาจารย์ เคย เห็นแสงสว่างมันวูบวาบ วูบวาบ... แล้วข้างหน้าสว่างไปหมด พอมันมืดปุ๊บ อะไรนี่ ไม่ดีแล้วมั้ง!? เขาบอกว่าถ้ามันมืดแล้วรู้สึกจิตไม่สว่าง เข้าใจว่า ต้อง “สะอาด สว่าง สงบ” พอมันมืด โอ! สงสัยผิดแล้ว ลืมว่ามืดเพราะสงบ หรือเปล่า ? มืดไปนานไหม ? มืดเพราะจิตดับหรือเปล่า ? มืดเพราะความ รู้สึกดับไป เลยกลายเป็นมืดไปพักหนึ่ง พอความรู้สึกใหม่เกิดขึ้นมา รู้สึก อย่างไร ?
จริง ๆ แล้วมืดปุ๊บ นิ่ง จับที่ความรู้สึก ดูความรู้สึกที่อยู่ในความมืด รู้สึกอย่างไร ? มีกาลังหรือไม่มีกาลัง ? ถ้าเรารู้ตรงนี้ เราจะเห็นเลยว่าความ รู้สึกขณะนั้นรู้สึกเป็นอย่างไร ดีหรือไม่ดี ? ไม่เกี่ยวกับความมืดดีไม่ดี แต่ “ความรู้สึก” ดีหรือไม่ดี ? อันนี้ละเอียดขึ้นแล้วนะ สอนธรรมะไต่ระดับ แล้วนะ ไล่ตามให้ทัน! เดี๋ยว...ถอยกลับมาใหม่ ทีนี้การที่เราจะรู้ชัด อยากให้ สงั เกต ทบี่ อกวา่ เมอื่ ไหรท่ สี่ ภาวะไมเ่ กดิ แลว้ ยกจติ ทบี่ อกวา่ เปลยี่ นบรรยากาศ


































































































   431   432   433   434   435