Page 457 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 457

433
ตั้งแล้ว เอาธรรมะเอาเรื่องราวเป็นที่ตั้ง เอาเหตุปัจจัยตรงนั้นเป็นที่ตั้ง และ เป็นการลดสักกายทิฏฐิไปในตัว
และอกี ตวั หนงึ่ ทจี่ ะทา ใหเ้ ราลดสกั กายทฏิ ฐจิ รงิ ๆ กค็ อื การเหน็ อาการ เกิดดับนี่แหละ เห็นอาการเกิดดับของรูปนาม สักกายทิฏฐิ ความเข้าใจว่าเป็น ของเรา รูปเป็นของเรา เวทนาเป็นของเรา สัญญาเป็นของเรา สังขารเป็น ของเรา เรามีสังขาร ความคิดเป็นของเรา เราเป็นคนคิด แต่ถ้าเมื่อไหร่เรา เห็นการเปลี่ยนแปลง แล้วแยกชัด แยกจิตเรากับกาย แยกจิตเรากับความ คิด จะเห็นว่าความคิดก็คือความคิด ไม่ใช่เรา เพราะเราเป็นผู้ดูความคิด ใช่ไหม ? แม้แต่ตัวที่ทาหน้าที่ดูความคิดก็ยังไม่บอกว่าเป็นเราเลย แล้วตัว ไหนบ้างที่บอกว่าเป็นเรา ? เหลือแต่จิตที่ทาหน้าที่รู้กับความคิด เขาเรียกว่า วิญญาณรู้กับสังขาร หรือจิตตสังขารกับวิญญาณขันธ์
โยคี (๒) : สงสัยว่าการแยกรูปแยกนาม เราใช้วิธีเอาจิตออกมา ข้างนอก...
พระอาจารย์ : ถ้าเห็นว่าจิตของเรากับตัวแยกส่วนกันเมื่อไหร่ ก็คือ การแยกรูปนาม รู้สึกได้ทันที ถึงแม้การแยกรูปนามนี่ ถ้าเราเห็นชัดแล้ว ถึง แม้จิตของเราจะอยู่ที่เดียวกับตัวก็ตาม อยู่ที่เดียวกับรูปนี้ก็ตาม แต่ก็จะรู้สึก ชัดว่าเขาเป็นคนละส่วน ไม่กลืนเป็นอันเดียวกัน อันนั้นไม่ผิดนะ
โยคี (๒) : เวลาปฏิบัติจนจิตสงบ ตามลมหายใจไปเรื่อย ๆ ลมหายใจ สั้นลงจนเหมือนกับใจจะขาด ต้องถอนกลับมาหายใจยาว ๆ
พระอาจารย์ : ถูกแล้ว บางครั้งเราตามลมหายใจยาว ๆ แล้วเรากลั้น หายใจไปด้วยในตัว พอมันยาวก็ยาวเกิน เราจะรู้สึกเหมือนใจจะขาด เป็นจุด เล็ก ๆ แล้วรู้สึกว่าต้องถอนหายใจกลับมา ซึ่งไม่ผิดนะ ถอนหายใจกลับมา หายใจยาว ๆ แล้วก็ตามเบา ๆ ไป รู้ใหม่ อันนั้นรู้ใหม่ได้นะ


































































































   455   456   457   458   459