Page 474 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 474

450
ค่อยจางไป หรือดับเด็ดขาดไปทันที วูบไปทันที หรือแตกกระจายไป ? นั่น ลักษณะอาการดับของอารมณ์
และเมื่ออารมณ์นี้ดับไป มีอะไรปรากฏขึ้นมา ? ความรู้สึกอึดอัด ความหนักหายไป ใจรู้สึกสงบ รู้สึกนิ่งขึ้น นั่นคือผลที่ตามมา ให้รู้ต่อเนื่อง ในลักษณะอย่างนี้ เพราะฉะนั้น เรารู้ว่าเราทาอะไร ผลที่ตามมาเป็นอย่างไร ไม่ใช่พอมีความอึดอัดขึ้นมา มีความไม่สบายใจขึ้นมา ดูแต่ความเบา ๆ ๆ ความอดึ อดั หายตอนไหนไมร่ ู้ ขณะทอี่ ดึ อดั นนั้ ความเบาเกดิ ขนึ้ ไดห้ รอื เปลา่ ? ขณะที่อึดอัด มีความเบาอยู่หรือเปล่า ? อันนี้ต้องสังเกต เพราะจิตสองดวง ไม่เกิดพร้อมกัน
เมื่อไหร่ที่มีความหนักเกิดขึ้นความเบาก็จะหายไป เหมือนมีความ สว่างเกิดขึ้นความมืดก็หายไป เมื่อมีความมืดเข้ามาความสว่างก็หายไป เมื่อ มีความทุกข์เกิดขึ้นความสุขก็หายไป ถ้าไม่สุขแล้วมันเงียบ ๆ ได้ไหม ? ไม่ สุขแต่มีความนิ่งความสงบเกิดขึ้นได้ ถ้าแยกนามกับนามได้ก็จะเห็นชัด ถ้า แยกความรู้สึกที่หนักอึดอัดกับจิตที่ทาหน้าที่รู้จากกันได้ นั่นก็คนละขณะกัน อีกแหละ ถ้าสภาวะอย่างนั้น ก็เกิดคนละขณะกันอีก แม้ชั่วเสี้ยววินาทีก็ เรียกว่าคนละขณะกัน
เพราะฉะนั้น การสังเกตสภาวะ สังเกตอาการเกิดดับ สังเกตอารมณ์ ที่ปรากฏขึ้นมา ให้มีความชัดเจนในแต่ละขณะ สภาวะที่เกิดขึ้น เวทนาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ถ้าเราแยกชัดแบบนี้ สติเราจะมีกาลังและมีความต่อเนื่อง มีอารมณ์ ให้รู้ และรู้อารมณ์หลักชัดเจน ไม่มีอาการเลื่อนลอย จากอารมณ์หนึ่งไปสู่ อีกอารมณ์หนึ่ง เห็นรอยต่อของอารมณ์ เห็นว่าแต่ละอารมณ์แต่ละขณะที่ เปลี่ยนไปนั้นต่างกันอย่างไร เวทนาที่เกิดขึ้นเป็นสุขเวทนา เป็นทุกขเวทนา หรือเป็นอุเบกขาเวทนา
อุเบกขาเวทนาจะเกิดตอนไหน ? เกิดเมื่อไหร่เราก็จะรู้สึกได้ว่าเป็น อย่างไร รู้สึกเฉย ๆ นิ่ง ๆ รู้สึกเฉย ๆ เฉยกับอะไร ? คาว่า “เฉย” อุเบกขา


































































































   472   473   474   475   476