Page 498 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 498

474
ถึงบอกว่ามหาวิทยาลัยใหญ่คือรูปนาม อาจารย์ใหญ่คือรูปนามที่ กาลังประกาศตัวเขาเอง สอนเราอยู่ทุกวัน แต่เรามองไม่เห็น เรามองข้าม เหมือนเรามองไม่เห็นตาตัวเองนะ ใครบ้างมองเห็นตาตัวเองถ้าไม่ส่อง กระจก ? มองยังไงก็ไม่เห็น หน้าตัวเองก็ยังไม่เห็น ต้องมีกระจกสะท้อน ถึงจะเห็นได้ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร บางครั้งเรามองข้ามตัวเอง มองข้ามการ กระทาตัวเอง มองข้ามคาพูดตัวเอง พอมีกระจกสะท้อนกลับมา รับไม่ได้ หน้าตัวเองแท้ ๆ! พอตัวเองแต่งหน้าดีหน่อย คนเห็นก็ โอ! หน้าตาดี จังเลย... อ๋อ! แต่งหน้าเรียบร้อยแล้ว! ถ้าเกิดวันไหนลืมแต่งหน้า ไปส่อง กระจก ตัวเองก็ยังตกใจ!
ที่เราไม่ระวังกิริยาอาการหรือคาพูดของเรา พอหลุดออกไปให้คนอื่น เห็น คนอื่นเขาแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบ เหมือนกระจกส่องเรานั่นแหละ แล้ว เราก็ตกใจ! แค่นี้ทาไมต้องแสดงอาการแบบนี้!? ถ้าเราคิดอย่างนั้นเราก็ โทษกระจก ถ้าเป็นอย่างนั้นปุ๊บ หน้าตาเราเป็นอย่างไร กระจกใสหรือเปล่า ? เราเห็นชัด ๆ แต่ถ้าเราดูกระจกยังไม่ใสก็อย่าส่องเลย เดินเลี่ยง ๆ ไปก่อน จะได้ไม่ต้องตกใจหน้าตัวเอง เห็นไหม เราเป็นคนเลือก เราเป็นคนทา
อีกสองสามชั่วโมงจะได้นับถอยหลังไปสู่วันปีใหม่ ตอนนี้เราก็มานับ ถอยหลังแต่เดินไปข้างหน้ากัน นั่งพิจารณาสภาวธรรมที่เกิดขึ้น ให้จิตเรา เดินไปข้างหน้าเรื่อย ๆ พัฒนาจิตเราให้ดียิ่งขึ้น สติของเราให้เร็วขึ้น ให้ไวขึ้น เราพร้อมที่จะรู้ พร้อมที่จะเข้าใจ พร้อมที่จะทา มันก็จะคล่องแคล่วว่องไวขึ้น เพราะฉะนั้น สติเราก็เหมือนกัน เราฝึกจิตของเราเพื่อพร้อมที่จะรู้อารมณ์ สองอย่าง พร้อมที่จะรู้สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นว่าคืออะไร และพร้อมที่จะรู้ว่า อารมณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นเขาดับอย่างไรเกิดอย่างไร คือพร้อมที่จะรู้อาการ เกิดดับ
ส่วนใหญ่เราอยากรู้ว่าเป็นอะไร กับพร้อมที่จะรู้ว่าเขาเกิดแล้วดับ อย่างไร สองอย่างนี้ต่างกัน อันนี้อยู่ที่เจตนานะ ถ้าไม่มีเจตนา เราก็รู้ไปทั่ว


































































































   496   497   498   499   500