Page 60 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 60

36
แบบนี้ทั้งหมดทุกอย่าง อย่างเช่น เวลามีความคิดเกิดขึ้น ให้กาหนดไปเลย พอใจที่จะรู้อาการเกิดดับของความคิด พอจิตเราพัฒนามากขึ้น สภาวะ ต่าง ๆ ความละเอียดมากขึ้น จิตเราผ่องใสขึ้น เดี๋ยวก็ปรากฏชัดเองว่า สภาพจิตเป็นอย่างไร จิตในขณะนั้นเป็นอย่างไร รู้สึกตื่นตัว รู้สึกสว่าง รู้สึก สงบ รู้สึกว่ามีความสุข รู้สึกอ่อนโยน เราจะรู้สึกได้ทันที นั่นคือลักษณะ ของสภาพจิตอย่างหนึ่ง
ทีนี้คาว่า “ดูธรรมในธรรม” สภาวธรรมที่ปรากฏขึ้นมาเป็นอย่างไร สภาวธรรมคืออะไร สภาวธรรมก็คือ อาการเกิดดับ อาการต่าง ๆ ของรูป นามที่ปรากฏขึ้นมาให้เราได้รับรู้ ไม่ว่าจะเป็นการเกิดทางตา หู จมูก ลิ้น กาย หรือใจก็ตาม อาการรูปนามเป็นอาการของขันธ์ ๕ ที่เป็นอาการของ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ก็ตามที่ปรากฏขึ้นมา แล้วเรากาหนด รู้ถึงอาการเกิดดับของเขา เห็นการเกิดดับ นั่นแหละคือการพิจารณาดูธรรม ในธรรม เมื่อพิจารณาดูสภาวธรรมในธรรมแล้วอะไรจะเกิดขึ้น เมื่อเราเข้า ถึงสภาวธรรม กาหนดรู้ถึงการเกิดดับของรูปนามมาก ๆ อะไรจะปรากฏ ขึ้นมา อานิสงส์เป็นอย่างไร
ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเห็นอาการเกิดดับของรูปนามอย่างต่อเนื่อง ปฏิบัติอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย ก็จะทาให้จิตใจของเรามีความผ่องใส มี ความบริสุทธิ์มากขึ้น สมาธิมีความตั้งมั่นขึ้น กิเลสต่าง ๆ พลอยเบาบาง ลงไปด้วย นั่นแหละคือการกาหนดรู้อาการเกิดดับของอารมณ์ต่าง ๆ การ กาหนดรู้สติปัฏฐาน ๔ แม้ที่สุดแล้วก็เป็นไปเพื่อความหลุดพ้น เพื่อมรรคผล นิพพานในที่สุด เพราะฉะนั้น อารมณ์ต่าง ๆ ที่ปรากฏขึ้นกับชีวิตของเรา ในชีวิตประจาวัน ถ้าเรามีเจตนาที่จะกาหนดรู้อาการเกิดดับของอารมณ์ เหล่านั้น อารมณ์เหล่านั้นก็จะเป็นอารมณ์กรรมฐานของเรา อยู่ที่ความพอใจ หรือเจตนาเท่านั้นเอง
เพราะฉะนั้น การปฏิบัติจึงต้องเจริญได้ทุก ๆ อิริยาบถ ไม่ว่าจะยืน


































































































   58   59   60   61   62