Page 66 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 66

42
จะใสตลอดเวลาไหม มีความสงบตลอดเวลาไหม มีความสว่างตลอด เวลาไหม อันนี้เป็นไปตามสภาวะญาณ ตามปัญญาของเรา ว่าเราจะเห็นใน ลักษณะอย่างไร แต่สภาวธรรมจะก้าวหน้าตลอดเวลา หรือเจริญก้าวหน้าไป เรื่อย ๆ เมื่อเรามีสติกาหนดรู้ตลอดเวลา มีสติรู้อยู่ตลอดเวลา สภาวธรรม ของเราก็จะก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป อันนี้เป็นส่วนสาคัญ
อย่าให้เกิดความรู้สึกว่าเดี๋ยวมารผจญ.. เดี๋ยวมารผจญ.. มารมาผจญ เยอะ บางคนมีอุปสรรคเยอะ มีมารเยอะ เพราะฉะนั้นให้พิจารณาดี ๆ ที่เรา คิดว่าเป็นมารนั้นคืออะไร เป็นอารมณ์อะไรที่เรียกว่าเป็นมาร ลักษณะไหน หน้าตาของมารที่มาผจญเราเป็นอย่างไร เราต้องมีเหตุมีผล สภาวธรรมที่ เกิดขึ้นอย่างที่พูดมาเนี่ยครอบคลุม อยู่ ๆ นั่งแล้วปวดหลังจังเลย ร่างกาย ก็ปวดหลังอย่างนี้ นั่ง ๆ แล้วปวดต้นคอ ปวดหลัง ปวดแขน ปวดขา จน ไม่สามารถปฏิบัติได้ คาว่า “ปฏิบัติ” ก็คือ มีสติรู้ถึงความปวดนั่นแหละ รู้ อาการของความปวด
อย่างหนึ่ง.. สาคัญอย่างมากเลย การกาหนดรู้อารมณ์ต่าง ๆ จะให้ดี ต้อง “กาหนดรู้ด้วยความรู้สึกที่ไม่มีตัวตน” ไม่มีเราเข้าไปเกี่ยวข้อง มีแต่สติ ทาหน้าที่รู้ กับอาการที่เกิดขึ้น มีสติกับปัญญาพิจารณาสภาวะต่าง ๆ ที่เกิด ขึ้น ไม่มีเราเป็นที่ตั้ง รู้ตามความเป็นจริง ถ้าเมื่อไหร่ที่เอาเราเข้าไปเกี่ยวข้อง เอาเราเป็นที่ตั้ง มันจะปิดบังปัญญาที่จะปรากฏขึ้นมา ปิดบังปัญญาที่จะรู้ ตามความเป็นจริง
ปิดบังปัญญาที่จะรู้ตามความเป็นจริง เพราะอะไร เมื่อไหร่ที่มีเรา เป็นที่ตั้ง ความอยากจะเกิดขึ้น อยากให้มันหายเร็ว ๆ อยากให้มันเกิดเร็ว ๆ อยากให้อาการเกิดดับชัด อยากให้มันละเอียด อยากไปให้ถึงไว ๆ ตรงที่ ความอยากเหล่านี้จะปรากฏขึ้นมา เมื่ออยากอย่างนี้ปรากฏขึ้นมาแล้ว อะไร ตามมา เมื่อไม่เป็นตามความอยาก ความขุ่นมัวความเศร้าหมองของจิตก็ เกิดขึ้น แต่ถ้าอยากรู้อยากเห็นความเป็นไปของธรรมชาติของอารมณ์ ของ


































































































   64   65   66   67   68