Page 80 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 80

56
เขาแล้ว อีกอย่างหนึ่งที่เขาประกาศตัวเขาเองก็คือว่า ลักษณะของความเป็น อนัตตาที่เราไม่สามารถเข้าไปบังคับบัญชาเขาได้ ไม่สามารถเข้าไปบังคับให้ เป็นอย่างที่เราปรารถนาได้ เวทนาที่ปรากฏขึ้นมานั้น ก็เปลี่ยนแปลงไป ตาม เหตุตามปัจจัยของเขาอยู่เนืองนิจ
เมื่อมีเวทนาเกิดขึ้น ถ้ากาหนดรู้ในลักษณะอย่างนี้ เรามีเจตนาที่จะ รู้ถึงอาการเกิดดับของเวทนาเนือง ๆ มีเจตนาที่จะรู้อาการเกิดดับของเวทนา เป็นสาคัญ จะทาให้จิตของเรามีความตั้งมั่น มีความเข้มแข็ง มีความตื่นตัว มีขันติเกิดขึ้น มีความผ่องใสเกิดขึ้น เพราะอะไร ? เมื่อไหร่ที่เรามีเจตนาที่จะ รู้ถึงการเกิดดับของเวทนาในขณะที่เวทนามีความแก่กล้านั้น จะทาให้จิตของ เรามีความผ่องใสยิ่งขึ้น หมายถึงว่าสติมีกาลังมากขึ้น เมื่อเรามีความอดทน ตั้งมั่นขึ้น นั่นคือสมาธิเพิ่มขึ้น
แล้วการพิจารณาอีกอย่างหนึ่งเมื่อมีเวทนาทางกายเกิดขึ้น ให้เรา พิจารณารู้สภาพตามความเป็นจริงว่า รูปนามขันธ์ ๕ อันนี้มีแต่ทุกข์ พิจารณาด้วยความทุกข์ เป็นไปด้วยความทุกข์ มีแต่ทุกข์เท่านั้นเกิดขึ้น มี แต่ทุกข์เท่านั้นตั้งอยู่ มีแต่ทุกข์เท่านั้นดับไป... นอกจากทุกข์ ไม่มีอะไรเกิด นอกจากทุกข์ ไม่มีอะไรดับ
และสิ่งหนึ่งที่เราต้องพิจารณาก็คือว่า เมื่อรูปนามอันนี้เป็นที่อาศัย เกิดของเวทนา ควรหรือที่จะเข้าไปยึดมั่นถือมั่นเอารูปนี้ว่าเป็นตัวเราของเรา หรือเข้าไปยึดมั่นถือมั่นเอารูปนี้เป็นสรณะ เป็นที่พึ่งอันเกษม ทั้ง ๆ ที่เขา ประกาศตัวเขาเองว่าเขาไม่มีความเที่ยง ไม่มีความแน่นอน มีความแปรปรวน มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่มีอะไรเป็นอมตะเลย มีความเสื่อม สลายเป็นปกติ มีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา เมื่อเราพิจารณาอย่างนี้ จะทาให้ความรู้สึกหรือจิตเรา คลายจากตัณหา คลายจากอุปาทานความยึด มั่นถือมั่นในรูปอันนี้.. นี่ส่วนหนึ่ง
อีกส่วนหนึ่งที่พึงพิจารณา.. ขณะที่มีเวทนาทางกายเกิดขึ้น แล้วเห็น


































































































   78   79   80   81   82