Page 84 - danai
P. 84
83
ลูกจ้างยิ่งกว่า
3. กำรระงับข้อผิดพำทแรงงำน มีดังนี้
3.1 กรณีที่ฝ่ำยใดได้ยื่นข้อเรียกร้องไปยังอีกฝ่ายเพื่อแก้ไขข้อตกลงเกี่ยวกับ
สภาพการจ้าง ท าให้อาจเกิดข้อพิพาทแรงงานตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518
ขึ้นได้ 2 กรณี ดังนี้
3.1.1 เมื่อมีกำรแจ้งข้อเรียกร้องเป็นหนังสือไปยังอีกฝ่ายแล้ว แต่ทั้งสองฝ่าย
มิได้ เจรจากันภายใน 3 วัน นับแต่วันที่รับข้อเรียกร้อง จะเกิดเป็นข้อพิพาทแรงงานขึ้นทันที
3.1.2 เมื่อมีกำรแจ้งข้อเรียกร้องโดยถูกต้อง และมีการเจรจากันภายใน 3 วัน
แต่คู่กรณี ไม่สามารถตกลงกันในข้อเรียกร้องทั้งหมดได้จึงเกิดเป็นข้อพิพาทแรงงานขึ้น และให้
ฝ่ายแจ้งข้อเรียกร้องแจ้งเป็น หนังสือให้พนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานทราบภายใน 24
ชั่วโมง นับแต่เกิดข้อพิพาทแรงงานขึ้น (มาตรา 21)
3.2 กำรไกล่เกลี่ยของพนักงำน ประนอมข้อพิพาทแรงงาน เมื่อพนักงาน
ประนอม ข้อพิพาทแรงงานได้รับแจ้ง ตามมาตรา 21 ว่าเกิด ข้อพิพาทแรงงานขึ้นพนักงาน
ประนอมข้อพิพาท แรงงานจะต้องรีบไกล่เกลี่ยเพื่อให้ตกลงกันได้ภายใน 5 วัน นับแต่วันที่รับ
หนังสือแจ้งดังกล่าว หากไกล่ เกลี่ยได้ส าเร็จทั้ง 2 ฝ่าย ก็จะท าข้อตกลงกันใหม่ ลง ลายมือชื่อ
และปิดประกาศในที่เปิดเผย ณ สถานที่ที่ลูกจ้างท างานอยู่ โดยปิดไว้อย่างน้อย 30 วัน พร้อมกับ
นายจ้างน าข้อตกลงดังกล่าวไปจดทะเบียนต่อ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานหรือผู้ซึ่ง
อธิบดีมอบหมาย ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ตกลงกันได้ ใน กรณีไกล่เกลี่ยไม่ส าเร็จ ให้ถือว่าข้อ
พิพาทแรงงานนั้นเป็น “ข้อพิพาทแรงงานที่ตกลงกันไม่ได้”
4. กำรวินิ จฉัยชี้ขำดข้อพิพำทแรงงานที่ตกลงกันไม่ได้เป็นหน้าที่ของ
คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่ากระทรวง
แรงงาน มีอ านาจหน้าที่วินิจฉัย ชี้ขาดข้อพิพาทแรงงานที่ไม่อาจตกลงกันได้เพื่อช่วยป้องกันหรือ
ลดการปิดงาน หรือการ นัดหยุดงาน ซึ่งหากเกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศและ
ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชน โดยส่วนรวมได้
พระรำชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533
พระรำชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 คือการสร้างหลักประกันในการ ด าเนิน
ชีวิตในกลุ่มของสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อรับผิดชอบในการเฉลี่ยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
จากการ เจ็บป่วย คลอดบุตร ตาย ทุพพลภาพ สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และการว่างงาน เพื่อให้
ได้รับการรักษาพยาบาล