Page 85 - danai

84

1. ผู้ประกันตนกำรเป็นผู้ประกันตน มีสำระส ำคัญ ดังนี้

1.1 ลูกจ้ำงที่มีอำยุ 15 ปีบริบูรณ์ ถึง 60 ปีบริบูรณ์ในสถานประกอบการที่มี
ลูกจ้าง ตั้งแต่ 1 คนขึ้นไปเป็นผู้ประกันตน ตามกฎหมายนี้ทันทีที่เข้าท างานเป็นลูกจ้าง จนกว่าจะ
พ้นจาการเป็นลูกจ้าง ของนายจ้างนั้น ซึ่งทั้งนายจ้างและลูกจ้างจะต้องขึ้นทะเบียนประกันสังคม
แม้มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์แล้วยัง เป็นลูกจ้างของนายจ้างอยู่ ให้ถือว่าลูกจ้างนั้นเป็นผู้ประกันตน
ต่อไป (มาตรา 33)

1.2 นำยจ้ำงมีหน้ำที่ยื่นแบบแสดงรำยละเอียดของลูกจ้ำงตามแบบที่
เลขาธิการก าหนด ต่อ ส านักงานประกันสังคม ภายในก าหนด 30 วัน นับแต่วันที่ลูกจ้างมีสิทธิ

เป็นผู้ประกันตน หรือตั้งแต่เริ่มท างาน
1.3 ให้ส ำนักงำนประกันสังคม ออกหนังสือส าคัญแสดงการขึ้นทะเบียน
ประกันสังคมให้แก่ นายจ้าง และออกบัตรประกันสังคมให้แก่ลูกจ้าง (มาตรา 36)

1.4 ควำมสิ้นสุดของผู้ประกันตนตามข้อ 1.1 (มาตรา 38)

(1) ตำย
(2) สิ้นสภำพกำรเป็นลูกจ้ำง

1.5 ผู้ประกันตนตำมข้อ 1.1 ที่จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน เมื่อ
ความเป็น ผู้ประกันตนได้สิ้นสุดลง ถ้ามีความประสงค์จะเป็นผู้ประกันตนต่อไป ให้ผู้นั้นแสดง

ความจ านงต่อส านักงาน ประกันสังคม ภายใน 6 เดือน นับแต่วันสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน
(มาตรา 39) กฎหมายก าหนดให้ผู้ประกัน ตนส่งเงินสมทบเข้ากองทุนเดือนละครั้ง ภายในวันที่
15 ของเดือนถัดไป (มาตรา 39)
1.6 บุคคลที่มีใช่ลูกจ้ำงตำม ข้อ 1.1 จะสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตนก็ได้โดยให้แจ้ง

ความจ านง ต่อส านักงานประกันสังคม และจะได้รับประโยชน์ทดแทนเพียง 3 ประเภทเท่านั้น คือ
กรณีคลอดบุตร กรณี ทุพพลภาพ และกรณีตายเท่านั้น (มาตรา 40) 17 การที่ผู้ประกันตนตาม
ข้อ 1.6 สิ้นสุดลงเมื่อผู้ประกันตนนั้น (มาตรา 41)

(1) ตำย
(2) ได้เป็นผู้ประกันตนตำมข้อ 1.1 อีก

(3) ลำออกจำกควำมเป็นผู้ประกันตน โดยแสดงความจ านงต่อส านักงาน
ประกันสังคม

(4) ไม่ส่งเงินสมทบ 3 เดือนติดต่อกัน

(5) ภำยในระยะเวลำ 12 เดือน ส่งเงิน สมทบมาแล้วไม่ครบ 9 เดือน
สิทธิและหน้าที่ของคนท่างาน

2. เดินสมทบ บทบัญญัติเรื่องเงินสมทบ การประกันสังคม มีสาระส าคัญ ดังนี้

2.1 ให้รัฐบำล นำยจ้ำง และผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ออกเงินสมทบกองทุน
เพื่อการจ่าย ประโยชน์ทดแทนในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีตาย
และกรณีลาคลอดบุตร ฝ่ายละเท่ากันตามอัตราที่ก าหนดใน