Page 120 - หนังสืออนุทิน พระศรีธวัชเมธี (ชนะ ป.ธ. ๙) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร สุพรรณบุรี, ผู้อำนวยการศูนย์อาเซียนศึกษา.
P. 120
เป็นประจ�า บ้านอยู่เหนือวัดใหม่ หลวงตาจรูญจึงย้ายติดตามมาอยู่กับ
หลวงพ่อโพ และร่วมกันซื้อที่ดินหนึ่งไร่สามงาน ในที่ตรงคณะ ๔-๕-๖
ฟากนี้ ในปี ๒๕๐๔ หลวงตาจรูญเป็นเจ้าคณะ ๔ ก่อนจะย้ายไปอยู่หลัง
พระอุโบสถฟากโน้น แล้วจึงไปอยู่คณะ ๓ จนมรณภาพ
ข้าพเจ้าสมัยเป็นสามเณรในปี ๒๕๑๗-๘ เข้ามาอยู่ในกรุงเทพ
มหานครใหม่ๆ พ�านักที่วัดเพลง แขวงปากคลอง เขตภาษีเจริญ
เป็นวัดในสวนเลยวัดนาคปรกเข้าไป มีเพื่อนร่วมส�านักเดียวกันที่
วัดโพธินิมิตรหลายรูป มีครั้งหนึ่งในวันหยุดเรียนบาลี เดินบิณฑบาต
มาถึงวัดโพธินิมิตร ตลาดพลู และพักค้างแรมที่วัดนี้ วันรุ่งขึ้นก็เดิน
บิณฑบาตกลับวัดเพลงเฉย แต่หลวงตาที่วัดเพลง ที่เห็นข้าพเจ้า
ออกเดินไปบิณฑบาตในยามเช้า ต่างพูดซุบซิบๆ แล้วเสียงซุบซิบ
ก็กลายเป็นเอะอะเสียงดังขึ้น เป็นใจความว่า “สงสัยถูกรถชนตายที่ไหน
เสียแล้ว ไม่กลับมาวัด ให้ใครไปดูซิ”
คณะที่ข้าพเจ้ามาพักบ่อยมากที่สุด คือ คณะ ๖ มาพักกับ
สามเณรสุบิน ผ่องแผ้ว หรือเณรเขียด คนบางบอน จึงอยากไปดูกุฏิว่า
เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จ�าได้ว่าหน้าห้องของสามเณรเขียดเป็นห้องของ
พระรูปหนึ่งคนทางภาคอีสาน ที่ชอบดูมวยเป็นชีวิตจิตใจ จ�าไม่ได้จริงๆ
กุฏิเสนาสนะที่เคยไปกินไปนอนครั้งเมื่อ ๔๐ ปีก่อน พระสมุห์ไสว
บอกว่า กุฏินี้เป็นกุฏิที่มหากริช เปรมรัตน์ ป.ธ.๕ หลานหลวงพ่อเจริญ
วัดหนองนาเคยอยู่
กุฏิของพระมหาก้อน ป.ธ.๕ ที่คณะ ๕ หัวหน้าของพวกสามเณร
คนบางบอน ก็เปลี่ยนแปลงไปหมด และแถวกุฏิที่พระสมุห์ไสวอยู่นี้
ข้าพเจ้าจ�าได้ว่าเป็นกุฏิ ๒ ชั้น ที่สามเณรประเทือง สามเณรหนุ่ม เป็นต้น
เคยอยู่อาศัย... ความจ�าพร่ามัวไปหมด ต้องสอบถามมหาสุบิน บุญมาแย้ม
118 อนุทินประจ�ำวัน