Page 13 - บทความวิชาการนานาชาติวารสารวิทยาลัยสงฆ์ปี60.
P. 13

85
                                                                 วิทยาลัยสงฆ์นครน่านฯ เฉลิมพระเกียรติฯ






 3
 ทั้งหมด  มีทัศนะเปิดกว้ำง หลุดพ้นเป็นอิสระอย่ำงแท้จริง โดยหลุดพ้นทั้งทำงจิต   คือจิตหลุดพ้นจำกสิ งบีบคั้น  ชีวิตที ดีนั้นมนุษย์ต้องรู้จักพัฒนำตนเองทั้ง 4 ด้ำนคือ กำย ศีล จิต และปัญญำ     มนุษย์ทุกคนล้วนต้องกำร
                                                                              5
 ครอบง่ำที เรียกว่ำกิเลสและควำมทุกข์ กลำยเป็นจิตที ปลอดโปร่ง เบิกบำน เป็นสุข  และด้ำนปัญญำ คือ หลุด  ควำมสุขในชีวิต ไม่อยำกมีควำมทุกข์ เพรำะควำมทุกข์ท่ำให้เกิดควำมไม่สบำยใจ บั นทอนต่อกำรท่ำกิจกรรม
 พ้นด้วยรู้เท่ำทันธรรมดำ แล้วมองเห็นตัวควำมจริงที ล้วน ๆ บริสุทธิ์  ไม่มีกิเลสเคลือบแคลงหรือท่ำให้เอนเอียง  ต่ำงๆ ส่งผลแย่ทั้งทำงกำยและใจ และท่ำให้คุณภำพชีวิตแย่ลง คนในสังคมไทยเมื อเกิดทุกข์ก็มักจะมุ่งหน้ำเข้ำ
 4
 และรู้ชัดแจ้งที ควำมจริงโดยตรง ไม่ต้องรู้ผ่ำนใคร ๆ หรือรู้ตำมที ใครบอกอีกต่อไป     หำวัด ทั้งที อำจไม่เคยเข้ำวัดมำก่อน เพรำะเมื อเกิดควำมทุกข์ถึงระดับหนึ ง ก็ ต้องกำรที พึ ง ที หำควำมสุขทำงใจ
            ที มิใช่ควำมสุขจำกเงินทองทรัพย์สิน เกียรติยศชื อเสียง ฯลฯ  แล้วอะไรล่ะคือควำมสุขของมนุษย์ที แท้จริง

 การพัฒนาตนเอง   เพื อที จะท่ำให้เกิดคุณภำพชีวิตที ดีขึ้น เงินเป็นล้ำนๆ บ้ำนหลังใหญ่โต ควำมไม่เป็นโรค กำรศึกษำระดับสูง หรือ
    กำรพัฒนำตนเอง หมำยถึง กำรน่ำหลักธรรมมำประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจ่ำวัน เช่น อริยสัจ 4         กำรท่ำงำนที ดี จำกควำมต้องกำรที หลำกหลำย เมื อไม่ได้สิ งที ต้องกำรมำครอบครองก็เกิดควำมผิดหวัง เกิด
 ไตรลักษณ์ อิทธิบำท 4 พรหมวิหำร 4 มรรคมีองค์ 8 และอนันตริยกรรมอันมีควำมส่ำคัญเกี ยวเนื องกันว่ำ   ควำมเสียใจ ควำมกลัว ท่ำให้มีกำรพึ งพิงศำสนำซึ งเป็นเสมือนศูนย์กลำงของจิตใจมำกขึ้น  หำกศึกษำดูให้ดีจะ

 อริยสัจ 4  มีทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค ชีวิตคนเรำมีทั้งสุขและทุกข์ แต่เวลำเรำมีทุกข์เรำโทษสิ งอื น โดยที ไม่  เห็นว่ำในสมัยก่อน ศำสนำเกิดขึ้นจำกควำมกลัวของมนุษย์ที ประสบกับปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติต่ำง ๆ  เช่น
                                                       6
 หำมันจำกอะไร หลักศำสนำพุทธว่ำ มีทุกข์แล้วค้นหำสำเหตุขอบทุกข์ หำหนทำงดับทุกข์ เมื อดับทุกข์ปัญหำ  พำยุพัด ฟ้ำแลบ ฟ้ำผ่ำ แผ่นดินไหว ไฟป่ำ เป็นต้น  เนื องจำกสมัยก่อนยังไม่มีเทคโนโลยีและควำมรู้เกี ยวกับ
 แห่งทุกข์ก็หมดสิ้นไป  ไตรลักษณ์ คนเรำส่วนมำกมักจะยึดมั นถือมั นว่ำ นี เป็นของเรำและจะต้องเป็นของเรำ  ปรำกฏกำรณ์เหล่ำนี้ มนุษย์จึงเกรงกลัวปรำกฏกำรณ์ทำงธรรมชำติต่ำง ๆ ที เกิดขึ้น ดังนั้น มนุษย์จึงแสวงหำสิ ง
 ตลอดไป แท้ที จริงทุกอย่ำงมันไม่เที ยง คงสภำพเดิมไม่ได้และไม่มีตัวตนแก่นสำร มีแล้วเหมือนไม่มี สรุปง่ำย   ที จะมำคุ้มครองป้องกันตนจำกภัย
 อย่ำยึดมั นจงปล่อยวำงบ้ำง    อิทธิบาท 4 มี ฉันทะควำมพอใจ วิริยะควำมขยัน จิตตะเอำใจใส่และวิมังสำ  อันตรำยที คิดว่ำจะได้รับจำกปรำกฏกำรณ์ธรรมชำติ และสำมำรถคุ้มครองให้มีชีวิตที เป็นสุข ด้วยเหตุนี้

 ตรวจสอบไตร่ตรอง ใครก็ตำมที ปฏิบัติตำมอิทธิบำท 4 มีแต่ควำมส่ำเร็จอย่ำงแน่ อันดับท่ำให้พอใจชอบ ๆ ก่อน   จึงเกิดเป็นควำมเชื อที ยอมรับนับถือพลังลึกลับทำงธรรมชำติว่ำเป็นสิ งที มีอิทธิพลเหนือมนุษย์ และได้สร้ำง
                                                                        7
 จึงจะมีควำมขยันหมั นเพียร กำรกระท่ำใดก็ตำมไม่เอำใจใส่ท่ำไปอย่ำงนั้นแหละ ผลที ได้ไม่ดี และหมั นตรวจผล  พิธีกรรมต่ำง ๆ ขึ้น จำกสิ งที เกิดขึ้นก็ได้มีวิวัฒนำกำรมำจนเกิดเป็นศำสนำ
 สอบว่ำเป็นอย่ำงไร พรหมวิหาร 4 เป็นหลักธรรมของผู้ใหญ่ เหมำะส่ำหรับปฏิบัติผู้น้อย ควรมีเมตตำ กรุณำ

 มุทิตำและอุเบกขำ นักเรียนพยำมฝึกให้มีใจ เรำจะภำคภูมิใจที เรำท่ำ  มรรคมีองค์ 8 ให้กรอบของควำมดีใน           1. การพัฒนาคุณภาพชีวิตตามแนวพุทธศาสนา
 กำรประกอบอำชีพ ด่ำรงชีวิตได้อยู่ในสังคมมีควำมสุขอนันตริยกรรม แปลว่ำ กรรมหนักที สุด ห้ำมไปสวรรค์  หำกกล่ำวถึงคุณภำพชีวิตในศำสนำพุทธนั้นจะต้องมีกำรพัฒนำทั้ง 4 ด้ำนได้แก่
 หรือนิพพำน ได้แก่ ฆ่ำพ่อฆ่ำแม่ ฆ่ำพระอรหันต์ ท่ำร้ำยพระพุทธเจ้ำและท่ำสงฆ์แตกสำมัคคี คนเรำฆ่ำพ่อฆ่ำแม่  1) กำรพัฒนำกำย (กำยภำวนำ) คือ กำรพัฒนำอินทรีย์ 6 ได้แก่ ตำ หู จมูก ลิ้น กำย ใจ ซึ งเป็นสิ ง
 ได้แล้วไม่จ่ำเป็นถึงคนอื น   เชื อมต่อกับอำรมณ์ทั้ง 6 ได้แก่ รูป เสียง กลิ น รส สัมผัส อำรมณ์ที ใจรับรู้ กำรพัฒนำอินทรีย์ 6 มีวัตถุประสงค์

            เพื อฝึกฝนในด้ำนกำรใช้งำน คือท่ำให้อินทรีย์เหล่ำนั้น มีควำมเฉียบคม มีควำมละเอียด มีควำมคล่องแคล่ว มี
 คุณภาพชีวิตกับพุทธศาสนา   ควำมจัดเจน ฝึกฝนในด้ำนกำรเลือกสิ งที มีคุณค่ำ และมีประโยชน์มำกที สุด ขณะเดียวกันก็มีวิธีหลีกเว้นจำกสิ งที
   มนุษย์เกิดมำย่อมต้องกำรมีคุณภำพชีวิตที ดี โดยคุณภำพชีวิตจะเกิดขึ้นได้ต้องมีควำมสุขเกิดขึ้นก่อน   เป็นภัย เป็นโทษหรือสิ งไม่ดีต่ำง ๆ ไม่ให้ทะลักเข้ำมำสู่อินทรีย์ โดยมีใจเป็นตัวรับรู้ทั้งหมด
 ควำมสุขที แท้จริงต้องเกิดจำกควำมรู้สึกพอใจในตนเอง รู้สึกว่ำชีวิตนี้มีคุณค่ำ มีควำมหมำย ซึ งกำรมีคุณภำพ

                   5  ปำริชำด สุวรรณบุบผำ และคณะ, พระพุทธศาสนากับการเสริมสร้างพลังในการด ารงชีวิตและทัศนคติที่
            เหมาะสมของคนพิการ กรณีคนพิการในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล  [ออนไลน์], แหล่งข้อมูล:
            http://www.openbase.in.th/files/full, [27 กุมภำพันธ์ 2555].
                                                              6  ชลพรรษ  ดวงนภำ. พุทธศาสนาในการพัฒนาสังคมไทย, [ออนไลน์], แหล่งข้อมูล: http://province.m-
 3   ธนภณ  สมหวัง, พุทธธรรม : คู่มือมนุษย์ศตวรรษที่ 21, หนังสือพิมพ์มติชนรำยวัน ฉบับประจ่ำวันที  11 มกรำคม   culture.go.th/trat/w2553/w2553/1aug53, [27 กุมภำพันธ์ 2555]

 2543, หน้ำ 6.      7  ฤทัยรัตน์  วรกิจโจดม.  พุทธศาสนากับการมีชีวิตยืนยาว,  [ออนไลน์],  แหล่งข้อมูล:
 4  พระพรหมคุณำกรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต), พุทธธรรม. พิมพ์ครั้งที  4. หน้ำ 923.   http://www.crs.mahidol.ac.th/thai/rutairut.htm, [27 กุมภำพันธ์ 2555].
   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18