Page 47 - Bang rak
P. 47
40
ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า ชาวฮารูณมีสื่อสัมพันธ์ กับแขกนอก (ชาวอินเดีย มุสลิม) ตั้งแต่ดั้งเดิม
อาจจะตั้งแต่ยุดที่อยู่ในหมู่บ้านต้นส าโรง แม้แต่ผู้เข้ามาดูแลรักษามัสยิดต้นส าโรง เช่น เช็คมูซา บาฟา
เด็ล และเช็คฮารูณบาฟาเด็ลผู้เป็นบุตรก็เป็นชาวอินโดนีเซียเชื้อสายอาหรับเปอร์เซียดังนั้นมัสยิดฮา
รูณจึงเป็นสื่อสัมพันธ์ระหว่างมุสลิมไทย กับมุสลิมต่างชาติตลอดมาจนถึงปัจจุบันอยู่ร่วมกันคบค้า
สมาคมกันฉันท์พี่น้องตั้งแต่อดีตกาลตลอดจนถึงปัจจุบันกว่า 100 ปี
เมื่อฮัจยียูซุบ (ตวนโส) ผู้ท าหน้าที่อีหม่าม และดูแลมัสยิดเรื่อยมามีอายุมากแล้วต้องการ
ความสงบ และพักผ่อนบ้างจึงมอบหมายให้ฮัจยีมัสอู้ดอัลอุมารี ผู้มีความรู้ด้านศาสนาและเป็นครูสอน
ศาสนาให้แก่ชาวฮารูณยุคต้นๆ มากมายเป็นที่เคารพนับถือในฐานะ “ครู” หรือ “หยอ” (หมายถึง
บิดา) เป็นอิหม่ามต่อจากฮัจยียูซุบ (ตวนโส) ต่อไปนับว่าเป็นอิหม่ามท่านที่ 2 ของมัสยิดฮารูณ
ครั้นเมื่อปี ฮ.ศ.1337 ( ปี พ.ศ.2460) เป็นปีที่ชาวฮารูณ (ชาวหมู่บ้านต้นส าโรง) ต้อง
ได้รับความเสียใจอย่างที่สุด เพราะ ฮัจยียูซุบ บาฟาเด็ล (โสหะรุณ หรือ ตวนโส) ซึ่งเป็นผู้ที่ชาวฮารูณ
รักและเคารพดั่งบิดาได้ถึงแก่กรรมถึงอายั้ลของอัลลอห์
กล่าวโดยสรุปมัสยิดฮารูณ เป็นมัสยิดที่ 2 ของประเทศไทยและเป็นสถานที่ประกอบ
ศาสนกิจของชาวมุสลิมสร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่3 โดยชาวประเทศอินโดนีเซีย
2. แผนที่และการเดินทาง
การเดินทางโดย รถโดยสารประจ าทาง สาย 1 16 36 45 75และ 93
รถ โดยสารประจ าทางปรับอากาศ ปอ. 16 36 45 75 93 และ187
การเดินทางด้วยเรือ ท่าเรือวัดม่วงแค
กล่าวโดยสรุปการเดินทางโดย รถโดยสรประจ าทาง สาย 1 16 36 45 75 และ 93 รถ
โดยสารประจ าทางปรับอากาศ ปอ. 16 36 45 75 93 และ187 การเดินทางโดยเรือ ท่าเรือวัดม่วงแค
การเดินทางมามัสยิดฮารูณสามารถเดินทางโดยเรือโดยสารและรถโดยสารประจ าทางได้
3. ลักษณะเด่นของมัสยิด