Page 12 - 7สุขศึกษา ทช11002.indd
P. 12

�




                สิ่งแปลกปลอมที่เขามาภายในรูหู และเกิดเปนขี้หู นอกจากนั้นภายในรูหูยังมีเยื่อแกวหู

                ซึ่งเปนเยื่อแผนกลมบาง ๆ กั้นอยูระหวางหูชั้นนอกกับหูชั้นกลาง ทําหนาที่ถายทอดเสียงผานหู

                ชั้นกลาง
                                        2)   หูชั้นกลาง มีลักษณะเปนโพรง ประกอบดวยสวนตางๆ ไดแก


                กระดูกรูปคอน กระดูกรูปทั่ง และกระดูกรูปโกลน เปนกระดูกชิ้นนอกติดอยูกับหูชั้นใน
                กระดูกทั้ง 3 ชิ้น ดังกลาว ทําหนาที่รับคลื่นเสียงตอจากเยื่อแกวหู

                                        3)    หูชั้นใน มีลักษณะเปนรูปหอยโขง เปนสวนที่อยูดานในสุด

                ทําหนาที่ขับคลื่นเสียงโดยผานประสาทรับเสียงสงตอไปยังสมอง และสมองก็แปลผล ทําใหรูวา

                เสียงที่ไดยิน คือเสียงอะไร


                              2.1.3  จมูก เปนอวัยวะรับสัมผัส ทําหนาที่หายใจเอาอากาศเขาและออกจาก

                รางกาย และมีหนาที่รับกลิ่นตาง ๆ ถาจมูกไมสามารถทําหนาที่ไดตามปกติ จะไมไดกลิ่นอะไร

                เลย หรือทําใหระบบการหายใจและการออกเสียงผิดปกติ

                                       สวนประกอบของจมูก จมูกเปนอวัยวะภายนอกที่อยูบนใบหนา

                ชวยเสริมใหใบหนาสวยงามจมูกแบงออกเปน 3 สวน ดังนี้

                                       1)  สันจมูก เปนสวนที่มองเห็นจากภายนอก เปนกระดูกออน

                ทําหนาที่ปองกันอันตรายใหกับอวัยวะภายในจมูก

                                       2)  รูจมูก รูจมูกมี 2 ขาง ทําหนาที่เปนทางผานของอากาศที่หายใจ

                เขาออก ภายในรูจมูกมีขนจมูกและเยื่อจมูก ทําหนาที่กรองฝุนและเชื้อโรคไมใหเขาสูหลอดลม

                และปอด

                                       3)  ไซนัส เปนโพรงอากาศครอบจมูกในกะโหลกศีรษะ จํานวน  4 คู

                ทําหนาที่พัดอากาศเขาสูปอด และปรับลมหายใจใหมีอุณหภูมิและความชื้นพอเหมาะ

                              2.1.4    ปากและฟน ปากเปนอวัยวะสําคัญของรางกายที่ใชในการพูด
                ออกเสียงและรับประทานอาหาร



                                      หนาที่ของฟน

                                         ฟน มีหนาที่ในการเคี้ยวอาหาร เชน ฉีก กัด บดอาหารใหละเอียด

                ฟนจึงมีหนาที่และรูปรางตางกันไป ไดแก ฟนหนา มีลักษณะคลายลิ่ม ใชกัดตัด ฟนเขี้ยว






             12   สุขศึกษา พลศึกษา ระดับประถมศึกษา  :  (ทช 11002)
                  ส�ำนักงำน กศน.จังหวัดกำฬสินธุ์
   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17