Page 77 - Newวิทยาศาสตร์มอต้น.indd
P. 77

69



                         6) กลุมผลิตภัณฑไลแมลงในบาน (Household Insect Repellents) ไดแกกลุมยอย

                  ตอไปนี้

                            - ผลิตภัณฑที่ใชไล/กําจัดยุง ผลิตภัณฑไลยุง มีหลายชนิด หลายรูปแบบ เชน ลูกกลิ้ง

                  (roll on) โลชั่นทากันยุง และแปงทาตัว แตผลิตภัณฑกันยุงที่มีขายอยูตามทองตลาดโดยสวนใหญ

                  แลว จะมีสวนประกอบที่สําคัญคือสารเคมีที่มีเปอรเซนตสูง โดยผลิตภัณฑกันยุงที่ใชกันมีสารเคมี

                  ที่เปนสารออกฤทธิ์สําคัญคือ ไดเอทิล -เมตา -โทลูเอมิด (Diethyl-meta-toluamide), ไดเมทิลพ

                  ทาเลต (dimethyl         phthalate)      และ เอทิล บิวทิลอะเซติลอะมิโน โพรพิโนเอต

                  (ethyl  butylacetylamino  propionate) ไดเอทิล -เมตา -โทลูเอมิด (Diethyl-meta-

                  toluamide) เปนสารออกฤทธิ์ที่นิยมใชมาก เปนพิษ
                            ขอควรระวังในการใช สารกลุมนี้มีพิษทั้งแแบบเฉียบพลัน คือ ถาสัมผัสทางผิวหนัง

                  กอใหเกิดการระคายเคืองตอผิวหนังและตา หากสูดดมขาไป ทําใหเกิดการระคายเคืองที่แผนเยื่อ

                  เมือกและทางเดินหายใจสวนบน และแบบเรื้อรังคือการไดรับสารเปนเวลานานอาจกอใหเกิด

                  อาการแพได

                            กลุมผลิตภัณฑที่ใชไลแมลงในบาน ไดแก ลูกเหม็น มีแนพธาลีน (Naphthalene) เปน

                  สารออกฤทธิ์ แนพาลีนเปนผลึกสีขาว ระเหิดไดงาย  ไอทที่เกิดจากการระเหิดนี้มีฤทธิ์ไลแมลง

                  แนพธาลีนจัดเปนสารพาหากกินหรือกลืนเขาไปทําใหมีอาการปวดศีรษะ คลื่นไส อาเจียน มึนงง

                  ระคายเคืองตอกระเพาะอาหารและลําไส การไดรับเขาไปในปริมาณที่มากอาจทําลายเซลเม็ดเลือด

                  แดง การหายใจเขาไปจะทําใหเจ็บคอ ไอ ปวดศีรษะ และคลื่นไส การสัมผัสทางผิวหนังทําใหเกิด

                  การระคายเคืองปวดแสบปวดรอน แนพธาลีนสามารถดูดซึมผานผิวหนังและทําใหเปนอันตรายได

                  การสัมผัสถูกตาทําใหปวดตา และสายตาพรามัว นอกจากแนพธาลีนแลว สารออกฤทธิ์ที่มีสมบัติ

                  คลายกันอีก 2 ชนิด ชนิดแรกคือ  p-Dichlorobenzene (1,4- Dichlorobenzene หรือ p-DCB)

                  ซึ่งสามารถระเหิดกไดยางชาๆ  และไอของมันจะทําหนาที่ดับกลิ่น หรือฆาแมลง  p-

                  Dichlorobenzene  มีพิษคลายๆแนพธาลีน ชนิดที่  2 คือ แคมเฟอร หรือ การบูร (Camphor;

                  1,7,7-Trimethylbicyclo[2.2.1]heptan-2-one)  ซึ่งมีฤททธิ์เปนสารไลแมลง เชนกัน การบูรมี

                  ความเปนพิษมาก ถาหายใจเขาไปกอใหเกิดการระคายเคืองตอทางเดินหายใจ ไอ หายใจถี่ มีผลตอ

                  ระบบประสาทเปนไดตั้งแตมึนงงจนถึงชัก ขึ้นอยูกับปริมาณและระยะเวลาที่ไดรับสาร การกลืน

                  หรือกินเขาไปกอใหเกิดการระคายเคืองตอทางเดินอาหาร เกิดอาการคลื่นไส อาเจียน ทองเสีย อาจ







                                                                       วิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น  :  พว21001   77
                                                                                         ส�ำนักงำน กศน.จังหวัดกำฬสินธุ์
   72   73   74   75   76   77   78   79   80   81   82