Page 99 - ภาษาไทยมอต้น.indd
P. 99

92

                             1) ศิลปะการพูดและศิลปะการเขียน เพราะเปนอาชีพที่ตองอาศัยศาสตรทั้งสองดาน

                      ประกอบกัน

                             2) ระดับของภาษา ซึ่งเปนเรื่องของการศึกษาถึงความลดหลั่นของถอยคํา และการเรียบเรียง

                      ถอยคําที่ใชตามโอกาส กาลเทศะ และความสัมพันธระหวางบุคคลที่เปนผูสงสารและ

                      ผูรับสาร ซึ่งกลุมบุคคลในสังคมแบงออกเปน หลายกลุม หลายชนชั้น ตามสภาพอาชีพ ถิ่นที่อยู
                      อาศัย ฯลฯ ภาษาจึงมีความแตกตางกันเปนระดับตามกลุมคนที่ใชภาษา เชน ถอยคําที่ใชกับ


                      พระภิกษุสงฆและพระราชวงศ อาจใชถอยคําภาษาอยางหนึ่ง ภาษาของนักเขียนหรือกวีที่สื่อสาร
                      ถึงผูอาน ก็จะใชภาษาอีกอยางหนึ่ง เปนตน ดังนั้นผูใชภาษาจึงตองคํานึงถึงความเหมาะสม และ

                      เลือกใชใหถูกตองเหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล

                                ในภาษาไทยจะแบงระดับของภาษาเปน 5 ระดับ คือ

                                2.1 ภาษาระดับพิธีการ เปนภาษาที่ใชในงานพระราชพิธี หรืองานพิธีของรัฐ

                                2.2 ภาษาระดับทางการ เปนภาษาที่ใชในที่ประชุมที่มีแบบแผน ในการบรรยาย การ

                      อภิปรายที่เปนทางการ เปนตน

                                2.3 ภาษาระดับกึ่งทางการ เปนภาษาที่ใชในการอภิปราย ประชุมกลุมในหองเรียน การ

                      พูดทางวิทยุและโทรทัศน ขาว และบทความในหนังสือพิมพ เปนตน

                                2.4 ภาษาระดับสนทนาทั่วไป เปนภาษาที่ใชสนทนาทั่ว ๆ ไปกับคนที่ไมคุนเคยมากนัก

                      เชน ครูพูดกับผูเรียน เปนตน

                                2.5 ภาษาระดับกันเอง เปนภาษาระดับที่เรียกวาระดับปากเปนภาษาสนทนาของ

                      ครอบครัว ในหมูเพื่อนสนิท หรือญาติพี่นอง  พูดอยูในวงจํากัด

                             3) เรื่องของน้ําเสียงในภาษา ซึ่งเปนเรื่องที่เกี่ยวกับอารมณความรูสึกของผูสงสารที่ปรากฏ

                      ใหรูสึกหรือเปนรองรอยในภาษาหรือเนื้อหาที่ผูสงสารตองการจะสื่อออกมาเปนความรูสึกแฝง

                      ที่ปรากฏในการสื่อสาร ซึ่งนักจัดรายการวิทยุตองระมัดระวังมิใหมีน้ําเสียงของภาษาออกมาในทาง

                      ที่ไมพึงประสงค หรือสรางความรูสึกที่ไมดีแกผูฟง

                             4) เรื่องของหลักการใชภาษา เชน เรื่องของคําสรรพนามที่เกี่ยวกับบุคคล คําลักษณะนาม
                      คําราชาศัพท การออกเสียง  ร  ล  และการออกเสียงคําควบกล้ํา


                             5) ดานการพัฒนาบุคลิกภาพ ในบางครั้งนักจัดรายการวิทยุตองปรากฏตัวตอบุคคลทั่วไป
                      ในงานตาง ๆ จึงควรตองแตงกายใหสุภาพเรียบรอย เหมาะกับกาลเทศะของสถานที่และงานที่ไป

                      ซึ่งจะชวยสรางความนาเชื่อถือแกผูพบเห็นไดสวนหนึ่ง

                               6) การพัฒนาองคความรูในตนเอง นักจัดรายการวิทยุ ตองหมั่นแสวงหาความรูติดตาม

                      ขาวสารขอมูลทุกดานอยางสม่ําเสมอ เพื่อนํามาใชเปนขอมูลในการพัฒนาการจัดรายการวิทยุ



                                                                         ภาษาไทย ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น  :  พท21001  99
                                                                                         ส�ำนักงำน กศน.จังหวัดกำฬสินธุ์
   94   95   96   97   98   99   100   101   102   103   104