Page 14 - 092
P. 14
อมั พชาดก
พระพุทธเจา้ ตรสั เลา่ เรอื่ ง “อัมพชาดก” ประกอบเรื่องทพี่ ระเทวทตั คดิ เปน็ ใหญแ่ ละ
จะปกครองสังฆมณฑลแทนพระพทุ ธเจ้า รวมทง้ั สงั ฆเภท (ทาใหส้ งฆแ์ ตกกนั ) สร้างความ
แตกแยกข้นึ ในพระพทุ ธศาสนา พระพทุ ธเจ้าจงึ ตรัสว่า “มิใชแ่ ตช่ าติน้ีเท่านั้นที่เทวทัตบอกคนื
อาจารย์ ชาตกิ ่อนก็เชน่ กัน” แลว้ จึงทรงเลา่ เรื่องอมั พชาดก ความวา่
ในอดีตกาลมีพราหมณห์ นุม่ คนหน่ึงไดเ้ ลา่ เรยี นมนต์เสกมะมว่ งให้ออกผลไดใ้ นช่วั พริบตา
โดยอาจารย์ซึ่งเป็นจณั ฑาล มีขอ้ แมว้ า่ “มนตน์ ้หี าคา่ มไิ ด้ อาศัยมนต์น้แี ลว้ จะไดล้ าภ
สักการะมากมาย ถา้ มคี นถามวา่ เรยี นมนตน์ ีม้ าจากใคร ให้บอกตามความเปน็ จรงิ วา่ ศึกษามา
จากอาจารย์ผู้เปน็ จัณฑาล มิฉะนน้ั แลว้ มนตก์ จ็ ะเสื่อม”
พราหมณห์ น่มุ ใชม้ นตเ์ สกมะม่วงในการเลยี้ งชีพ วันหน่ึงคนรษั าพระราชอทุ ยานของ
พระเจา้ กรงุ พาราณสซี อ้ื มะมว่ งทเ่ี กดิ จากมนต์ไปถวายพระราชา พระองค์ทรงติดใจรสชาตขิ อง
มะมว่ ง จึงให้ถามพราหมณ์หนมุ่ ว่าเรยี นมนตเ์ สกมะม่วงมาจากใคร ดว้ ยความละอายท่จี ะบอก
วา่ อาจารยข์ องตนเป็นจัณฑาล พราหมณห์ นมุ่ จึงกราบทลู เปน็ เทจ็ ว่าไดเ้ ล่าเรยี นมนตม์ าจาก
ทศิ าปาโมกขแ์ หง่ กรงุ ตักศลิ า ทันทีทพี่ ราหมณก์ ลา่ วเทจ็ มนตก์ ็เสอ่ื มโดยไม่รู้ตัว เมอ่ื
พระราชารับส่งั ให้เสกมะม่วงให้เสวย แมพ้ ราหมณ์จะรา่ ยมนตอ์ ยา่ งไร ก็ไม่ได้ผลอยา่ งเชน่ เคย
พราหมณ์หน่มุ จงึ กราบทลู ความจรงิ วา่ ตนไดเ้ รยี นมนต์มาจากอาจารยจ์ ัณฑาล
เมือ่ พระราชาทรงทราบความจริงกก็ รว้ิ พราหมณห์ นมุ่ แลว้ ตรัสวา่ “บคุ คลใดรแู้ จง้
ธรรมจากอาจารย์ใด ไมว่ ่าเปน็ กษตั ริย์ พราหมณ์ แพศย์ ศูทร คนจณั ฑาล อาจารยน์ นั้ แล
เปน็ คนที่ประเสรฐิ สดุ ของเขา” เมือ่ ตรสั แลว้ พระราชากร็ ับส่งั ให้เฆ่ยี นพราหมณห์ นมุ่ และขบั ไล่
ออกจากพระนคร