Page 18 - นิตยสารธัมมวิโมกข์ ปฐมฤกษ์
P. 18
ี
ุ
ิ
ิ
ั
ให้ได้ด้วยการประพฤตปฏิบตตามแนวทางทองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพทธ
่
เจ้าทรงสอน
ฉะนั้นการสอนแบบนี้จึงเป็นการใช้ก�าลังใจสูงสุด และเป็นธรรมะท ี ่
ละเอียด ครูผู้สอนจึงต้องไม่ประมาทในตนเอง ถ้ายังคิดว่าตัวยังดีอยู่ก็จง
ี
อย่าสอนเขา และคนท่มีความรู้สึกว่าตัวดี ก็คือคนเลว มีความประมาทอยู่
ขณะนั้นเราก็เลวและจุดหนึงพระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า “บคคลใดรู้ตัวว่าเป็น
่
ุ
ั
ุ
ั
ิ
ิ
พาล บคคลนั้นพระองค์ทรงกล่าวว่าเป็นบณฑต” ค�าว่าพาลแปลว่า โง่ บณฑต
แปลว่าเป็นผู้รู้
ั
ู
้
เป็นอนว่า ถ้าคนใดมีความร้สึกตนเองยังโง่อยู่ คนประเภทนันองค์
สมเด็จพระบรมครูทรงตรัสว่า “คนนั้นเป็นคนฉลาด” ท้งนี้เพราะอะไร เพราะ
ั
ั
ว่าถ้าคนโง่จรงๆ ก็เลยไม่ร้ตวว่าโง่ ไม่มีปัญญาพจารณาอารมณ์ของตนเอง ถ้า
ู
ิ
ิ
ี
คนฉลาดเขาจะมองจุดตามความเป็นจริงไว้เสมอว่าสิ่งท่เรารู้นี่อะไรบ้างท่เรา
ี
ยังไม่รู้ เวลานี้เราเป็นพระอรหันต์แล้วหรือยัง ถ้าเรายังไม่เป็นพระอรหันต์ ก็
แสดงว่าเรายังรู้จริงในเร่องของขันธ์ 5 ไม่ได้
ื
ฉะนั้นการสอนอย่างสอนนอกลู่นอกทาง และก็จงอย่าแนะน�าธรรมะ
ิ
เกินกว่าจุดท่เขาจะต้องปฏิบัต อย่าไปอธิบายธรรมะในขณะเวลาท่ผู้ปฏิบัต ิ
ี
ี
ี
ก�าลังสนใจจิตเฉพาะ เราจะอธิบายได้โดยเฉพาะกิจท่เราจะฟังสอนจุดเดียว
ี
เท่านั้น ถ้าไม่เข้าใจว่าจะสอนแบบไหน เอาตัวอย่างย่อๆ ท่สอนกับคณะ
ี
่
สมุทรปราการเมื่อวันท 2 ม.ค. 23 เอามาฟังดูว่าการแนะแนวกันแบบนั้น เขา
�
ี
ทากันยังไงแล้วก็ประการท่สอง ประการต่อไปจงอย่าใช้อารมณ์เร่งรัดแล้วก็
จงอย่าใช้วาจาท่ไม่สมควร เพราะว่าอารมณ์ท่เร่งรัดก็ดี วาจาท่ไม่สมควรก็ดี
ี
ี
ี
เป็นการไม่สมควรไม่เหมาะสมแก่ครูผู้สอนธรรมะ เพราะว่าธรรมะจะต้อง
14