Page 26 - คู่มือความรู้เข้าใจในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเล่ม 2
P. 26

ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2536 ว่าควรลงโทษ
                               �
                                     ี
                                                                     ื
          ไล่ออกจากราชการ การนาเงินท่ทุจริตไปมาคืนหรือมีเหตุอันควรปรานีอ่นใด
          ไม่เป็นเหตุลดหย่อนโทษลงเป็นปลดออกจากราชการ โดยส่วนราชการต้องถือ
          ปฏิบัติ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ถูกลงโทษไม่มีสิทธิได้รับเงินบ�าเหน็จบ�านาญเลย


               การด�าเนินการทางอาญาเป็นอย่างไร ?


               การด�าเนินการทางอาญา มีดังนี้
                                                                       ็
               ประธานกรรมการ ป.ป.ช. จะส่งรายงาน เอกสาร และความเหน
          ไปยังอัยการสูงสุด หรือฟ้องคดีต่อศาลกรณีผู้ถูกกล่าวหาเป็นอัยการสูงสุด
                                        �
                                  ี
              �
          เพ่อดาเนินคดีอาญาในศาลท่มีเขตอานาจพิจารณาพิพากษา โดยให้ถือว่า
            ื
          รายงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นสานวนการสอบสวนตามประมวล
                                             �
          กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และศาลจะประทับฟ้องไว้พิจารณาโดย
          ไม่ต้องไต่สวนมูลฟ้อง
               ก  รณีท่อัยการสูงสุดเห็นว่ารายงานดังกล่าวยังไม่สมบูรณ์ คณะกรรมการ
                    ี
          ป.ป.ช. กับอัยการสูงสุดจะแต่งตั้งคณะท�างานร่วมกันขึ้นมาเพื่อรวบรวมพยาน
          หลักฐานให้สมบูรณ์ แต่ถ้าหาข้อยุติร่วมกันไม่ได้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.
          จะมีอ�านาจในการฟ้องคดีเองหรือแต่งตั้งทนายให้ฟ้องคดีแทนได้



               ผู้กระท�าผิดอาญาฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ จะต้องรับโทษ
               อย่างไร ?

               ประมวลกฎหมายอาญาได้กาหนดบทลงโทษแก่ผู้กระทาความผิดเก่ยว
                                                            �
                                                                      ี
                                      �
          กับการทุจริตไว้ ตัวอย่างเช่น
               มาตรา 147 “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ท�า จัดการหรือรักษา
          ทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดย
          ทุจริตยอมให้ผู้อ่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจาคุกต้งแต่ห้าปีถึงย่สิบปี
                                                                    ี
                       ื
                                                     �
                                                          ั
          หรือจ�าคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท”
       26
   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31