Page 103 - BookHISTORYFULL.indb
P. 103
โดยปกติหลักฐานช้นต้นมักเป็นท่สนใจและให้ความสาคัญ มากกว่าหลักฐาน
�
ี
ั
ึ
ช้นรองเพราะมีความคิดว่า หลักฐานท่เกิดข้นใกล้ชิดเหตุการณ์มากเท่าไร ความถูกต้องย่อม
ั
ี
มีมากขึ้นเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามหลักฐานชั้นต้น ก็อาจให้ข้อมูลที่ผิดพลาดได้ เนื่องจาก
(๑) ผู้สร้างหลักฐานไม่มีความเข้าใจอย่างแท้จริงในเหตุการณ์น้น ส่งท ี ่
ั
ิ
ั
์
ิ
้
ิ
ู
ึ
้
ื
ิ
้
่
รายงานนนเป็นความจรงโดยบริสุทธใจ ความคลาดเคลอนของขอมล จึงเกดขนได้โดยไม่เจตนา
ื
่
ิ
้
ั
ื
ิ
ื
่
ิ
ื
์
ิ
(๒) ตงใจปกปดหรอบดเบอนความจรงเพอประโยชนสวนตนหรอรกษาสทธ ิ
ั
ี
บางอย่างของผู้สร้างหลักฐานหรือกลุ่มคนท่ตนรู้จักหรือความนิยมส่วนตัวทาให้ไม่เห็น
�
ข้อบกพร่องหรือข้อเสียของฝ่ายตน รวมท้งนาความรู้สึกส่วนตัวไปปะปนหรือบิดเบือน
�
ั
รายงานให้คลาดเคลื่อนได้
ี
ื
(๓) อยู่ในบริบทของเวลาท่มีความคิด ความเช่อและอิทธิพลทางสังคมครอบงา �
ั
(๔) ผู้สร้างหลักฐานไม่ได้รายงานความเจริญท้งหมดให้ครบถ้วน แต่รายงาน
ื
ื
บางส่วนหรือรายงานคลาดเคล่อนจากความจริงเป็นบางส่วนอาจเพ่อความรักชาติ ปกป้อง
สถาบันหรือมีเจตนาอื่นแอบแฝง
ั
ดังน้น หลักฐานช้นรอง แม้จะมีข้นภายหลังเหตุการณ์ แต่ถ้าได้สอบสวน
ึ
ั
ิ
่
ี
่
ั
็
ขอเทจจรงอยางถองแทแลว กอาจใหความจรงทถกตองกวากได ดงนนไมวาหลกฐานชนตน
้
้
ู
้
้
็
่
ั
่
็
้
่
้
้
ั
ั
ิ
้
่
้
ั
หรือหลักฐานช้นรองก็ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบหรือประเมินค่าตามวิธีการ
ทางประวัติศาสตร์ ทั้งสิ้น
ส่งท่ครูควรทาความเข้าใจก่อนว่า เม่อพูดถึงหลักฐานทางประวัติศาสตร์
ิ
�
ื
ี
เราเน้นที่ “ข้อมูล” ที่บรรจุอยู่ในหลักฐาน ซึ่งโดยทั่วไปเราเรียกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่
เราต้องการศึกษาว่า “ข้อเท็จจริง” อันเป็นการเตือนใจผู้ศึกษาอดีตว่า ข้อมูลที่ได้อาจมีทั้ง
ข้อเท็จจริงและ ข้อจริง นักประวัติศาสตร์บางท่าน เช่น
�
นิธิ เอียวศรีวงศ์ และ อาคม พัฒิยะ ได้ใช้ศัพท์คาว่า “ข้อสนเทศ” หมายถึง
ี
ข้อความท่บรรจุอยู่ในหลักฐานและอธิบายว่า “ข้อสนเทศน้แหละ คือ ตัวหลักฐาน
ี
ทางประวัติศาสตร์” โดยยกตัวอย่างว่า เจดีย์ทรงลังกาในเขตเมืองอโยธยา (เมืองที่ตั้งอยู่
ก่อนจะเกดกรงศรอยุธยาในท้องท่เดยวกน) อาจไม่มข้อความใดจารึกไว้เลย แต่เป็น
ี
ุ
ี
ิ
ั
ี
ี
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ เพราะรูปทรงของเจดีย์บอกให้เรารู้ว่า พุทธศาสนานิกาย
เถรวาทตามคติลังกา อาจแพร่มาถึงแถบเมืองอโยธยา ก่อนหน้า พ.ศ. ๑๘๙๓ สิ่งที่เจดีย์
ทางลังกาบอกนี้ คือ ข้อสนเทศซึ่งถือเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เพราะฉะนั้น เมื่อเรา
พูดว่า หลักฐานใดน่าเช่อถือหรือไม่ เราจึงหมายถึง ข้อสนเทศท่ถูกบรรจุไว้ในศิลา กระดาษ
ี
ื
เจดีย์ ผ้า ฝาผนัง หรือความทรงจ�าของคน ฯลฯ แต่มิได้หมายถึงวัตถุหรือบุคคลที่ธ�ารงข้อ
สนเทศนั้นๆ ไว้
101