Page 134 - BookHISTORYFULL.indb
P. 134
ี
ี
ภาพ ท้องพระโรงพระท่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาทและภาพวาดท่ยังเป็นข้อสันนิษฐานว่า
ที่นี่เคยเป็นที่รับรองคณะราชทูตจากประเทศฝรั่งเศส
ี
".... คณะทูตฝร่งเศส มาถึงสยามเม่อ ๒๒ กันยายน พ.ศ. ๒๒๒๘ และในวันท่ ๑๘
ื
ั
ตุลาคม พ.ศ. ๒๒๒๘ สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการต้อนรับ
โดยเชอวาเลียร์ เดอ โชมองต์ ราชทูตอัญเชิญพระราชสาสน์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ มาถวายแก่
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ณ พระราชวังกรุงศรีอยุธยา ทั้งนี้ตามบันทึกของบาทหลวงตาชารด์
ระบุว่า
.....พระเจ้าแผ่นดินสยาม ประทับ ณ สีหบัญชร ที่สูงมาก การจะยื่นพระราชสาสน์ถวาย
ให้ถึงพระองค์ท่านน้น จาเป็นต้องจับคันพานท่ปลายด้ามและชูแขนข้นสูงมาก ซ่งเม่อพิจารณา
ี
ั
ื
�
ึ
ึ
เห็นว่าการถวายพระราชสาสน์ในระยะห่างมากน้น เป็นการไม่สมเกียรติ โดยควรท่จะถวายให้ใกล้
ี
ั
พระองค์มากที่สุด ราชทูตจึงจับพานที่ตอนบนและยื่นขึ้นไปเพียงครึ่งแขนแค่นั้น พระเจ้าแผ่นดิน
ึ
ั
�
สยามทรงทราบความประสงค์ว่าเหตุใดราชทูตจึงกระทาเช่นน้น จึงทรงลุกข้นยืนพร้อมกับ
ื
แย้มพระสรวลและทรงก้มพระองค์ออกมานอกสีหบัญชร เพ่อรับพระราชสาสน์ตรงก่งกลางทาง
ึ
แล้วทรงน�าพระราชสาสน์นั้น จบเหนือเศียรเกล้า อันเป็นการถวายพระเกียรติให้เป็นพิเศษ...."
ั
ื
ี
ั
ข้อมูลเหล่าน้ นักเรียนเองได้เรียนรู้ว่า เร่องราวในประวัติศาสตร์น้น มีท้ง “ข้อจริง” และ
“ข้อเท็จ” ปะปนกันไปหมดและเร่มตระหนักอย่างท่อาจารย์ทางประวัติศาสตร์ได้กล่าวไว้ว่า
ี
ิ
“ประวัติศาสตร์จริงเจ็ดส่วนเท็จสามส่วน”
๒. สัมภาษณ์บุคคลเกี่ยวกับสิ่งก่อสร้างในพระนารายณ์ราชนิเวศน์การสัมภาษณ์
ี
ั
่
บคคลต่างเกยวกบสงก่อสร้างในพระนารายณ์ราชนเวศน์ นกเรยนพบว่าข้อมลส่วนหนง
่
ั
ี
่
ิ
ู
ุ
ิ
ึ
็
ึ
ุ
ั
ั
้
กสอดคล้องกบข้อมูลจากการศกษาเอกสาร เพราะบคลลเหล่านน กศกษาจากเอกสาร
็
ึ
ื
ี
มาด้วยเช่นกัน อาจจะมีแตกต่างไปบ้างตรงท่มีเกร็ดประวัติศาสตร์หรือเร่องเล่าแทรกมาบ้าง
ี
เช่น คราวท่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชประชวรและประทับอยู่ท่พระทนังสุทธาสวรรค์
่
่
ี
ี
เขตพระราชฐานชั้นใน ระหว่างนั้นพระเพทราชา ขุนหลวงสรศักดิ์ และขุนนางได้ประชุมกัน
132