Page 13 - คำให้การชาวกรุงสยามใหม่
P. 13
วัยเยาว์โดยเฉพาะบรรพบุรุษข้างพ่อ พิภพเคยบอกกับคนใกล้ชิดว่า เขา
ั
ั
รู้สึกถึงความอยุติธรรมของระบบต้งแต่คร้งยังเป็นเด็กไปนอนกับปู่ใน
กระต๊อบเฝ้านาและไร่แตงชายคลองของแม่น�้าน้อย เขายืนยันความรู้สึกนี้
อีกครั้งเมื่อคราวกลับไปย้อนรอยบรรพบุรุษที่นาริมแม่น�้าน้อยว่า
ั
ึ
“ความรู้สึกถึงความอยุติธรรมของระบบ เกิดข้นในตัวผมต้งแต่คร้ง ั
นั้นจนถึงวันนี้ มันนานมาก นานถึงกว่า ๖๐ ปี”
พิภพภาคภูมิใจในสายเลือดนักรบชาวนาวิเศษไชยชาญของปู่สน
กับย่าเย็นท่ยังหล่งไหลอยู่ในกายของเขา “สายปู่และย่าคงเป็นคนท่สืบ
ี
ี
ั
ื
เช้อสายมาต้งแต่สมัยอยุธยา ไม่เป็นนักรบสู้กับพม่า ก็เป็นชาวนาด้งเดิม
ั
ั
หรือเป็นทั้งชาวนาและนักรบไปพร้อมๆ กัน
ี
...วันน้ยังมีอนุสาวรีย์นายดอกและนายทองแก้วต้งอยู่ท ี ่
ั
วัดวิเศษไชยชาญ เป็นหลักฐานบอกว่า ชาววิเศษไชยชาญเป็นชาวนา
เป็นนักรบ ที่สู้อยู่ตรงนี้และอยู่ตรงนี้มายาวนาน”
ั
่
ั
่
ี
ื
็
ี
พภพมกยกเรองย่าเยนเป็นกรณตวอย่างของชาวนาทเอาข้าวมา
ิ
หมักต้มเหล้าขายขวดละ ๕ บาท ยามข้าวราคาถูก ว่าเป็นต�านานการต่อสู้
เพ่อความเป็นธรรมของชาวนา เขากล่าวถึงวีรกรรมต้มเหล้าของย่ากับการ
ื
ต่อสู้การผูกขาดค้าเหล้าของรัฐกับกลุ่มทุนใหญ่ว่า
ี
ื
“เร่องต้มเหล้าน้ เป็นประเด็นขัดแย้งระหว่างชาวบ้านกับรัฐไทย
จนถึงทุกวันน้ การท่รัฐไทยห้ามชาวบ้านต้มเหล้า แต่กลับส่งเสริมให้
ี
ี
ั
ั
กลุ่มทุนผูกขาดต้มเหล้าขายได้ท่วบ้านท่วเมือง จนรวยรายเดียวท่ว
ั
ี
ื
�
่
ประเทศ รารวยจนนาเงินไปกว้านซ้อท่ชาวบ้านนับแสนๆ ไร่มาครอบ
�
ครอง และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเสียด้วย...การที่ชาวนาแบบย่าเอาข้าวใน
ื
นามาแปลงเป็นเหล้า ก็แสดงความฉลาดในเร่องการแปรรูปผลผลิต
้
้
ื
่
ึ
ั
่
็
่
ั
้
ู
ซงตอมากลายเปนสญลกษณการตอสของชาวนาไทย เรองการตมเหลา
์
่
คำ�ให้ก�รช�วกรุงสย�มใหม่ l 13