Page 39 - คำให้การชาวกรุงสยามใหม่
P. 39
ื
�
ต้องเห็นก่อนว่า การศึกษาไทยเป็นเคร่องมือของชนช้นนาในการล้างสมอง
ั
ื
ี
ั
�
ให้ยอมจานนต่อชนช้นปกครองจึงจะปลดแอกได้ จะต้องเปล่ยนวิธีคิดเร่อง
�
การศึกษาเสียใหม่ ต้องทาให้คน โดยเฉพาะคนจนมีความภาคภูมิใจใน
ึ
ตนเอง ไม่รู้สึกว่าตัวเองมีปมด้อย ความเสมอภาคถึงจะเกิดข้นได้
ความเสมอภาคไม่ใช่มีเงินเท่ากัน...แต่มีความเป็นมนุษย์เท่ากัน ไม่ว่าคุณ
จะเป็นใคร จะรวยหรือจน แต่คุณมีศักดิ์ศรีเท่ากัน เป็นมนุษย์เท่ากัน”
สุดท้ายพิภพเสนอว่า “การปฏิรูปการศึกษาจะท�าเรื่องการศึกษา
อย่างเดียวโดดๆ ไม่ได้ จะต้องทาการเมืองให้เป็นประชาธิปไตยด้วย
�
ท�าเศรษฐกิจให้เป็นประชาธิปไตยด้วย เศรษฐกิจต้องไม่ผูกขาด ต้องท�าให้
ประชาชนเป็นพลเมืองท่ต่นตัว ทุกวันน้การศึกษาสอนเร่องพลเมืองเหมือน
ื
ื
ี
ี
ี
กัน แต่สอนเด็กให้เป็นประชาชนท่ยอมจานนต่อรัฐ เพราะฉะน้นเราต้อง
�
ั
สอนเร่องพลเมืองแบบใหม่ สอนให้รู้ว่ารัฐมีหน้าท่รับใช้ประชาชน ประชาชน
ี
ื
ต้องมีส่วนร่วมทางการเมือง มีส่วนร่วมในการก�าหนดอนาคตประเทศ...”
ั
ื
ึ
ี
ั
ปาฐกถาคร้งน้ ปิดท้ายโดย ส. ศิวรักษ์ ซ่งกล่าวช่นชมท้งปาฐก
และโดยเฉพาะผู้อ่านปาฐกถา คือ ครูรัชนี ธงไชย คู่ชีวิตของพิภพผู้เป็น
ท้งศรีภรรยา กัลยาณมิตรร่วมอุดมการณ์ แม่ของลูกชาย ๒ คน และ
ั
ของลูกๆ อีกนับพันคนในโรงเรียนหมู่บ้านเด็ก บ้านทานตะวัน และเพื่อน
ี
ร่วมงานทุกคนในมูลนิธิเด็กท่เรียกครูรัชนีว่า “แม่แอ๊ว” ด้วยความรัก
ศรัทธา ชื่นชม เคารพ และนับถืออย่างสนิทใจ
คำ�ให้ก�รช�วกรุงสย�มใหม่ l 39