Page 32 - ศาสนาพุทธ
P. 32
กถา เมื่อนักศึกษารู้สึกว่าอรรถกถายังไม่ชัดเจนก็มีผู้เชี่ยวชาญนิพนธ์ฎีกาขึ้นชี้แจงความหมาย และมีอนุ
ฎีกาส่าหรับชี้แจงความหมายของฎีกาอีกต่อหนึ่ง ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะปัญหาก็นิพนธ์ชี้แจงเฉพาะปัญหาขึ้น
เรียกว่า ปกรณ์ เหล่านี้ถือว่าเป็นคัมภีร์พระพุทธศาสนาทั้งสิ้น แต่ทว่ามีน้่าหนักน้อยกว่าพระไตรปิฎก เพราะถือว่า
เป็นความเห็นส่วนตัวของผู้ตีความ นักศึกษาจะเห็นกับบางคัมภีร์ และไม่เห็นด้วยกับบางคัมภีร์ก็ได้ ไม่ถือว่ามีความ
เป็นพุทธศาสนิกมากน้อยกว่ากันเพราะเรื่องนี้
"พระไตรปิฎก คือ คัมภีร์ค่าสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
แบ่งเป็น 3 หมวด คือ
1. พระสุตตันตปิฎก รวมค่าสอนของพระพุทธเจ้า และพระสาวก
2. พระวินัยปิฎก ศีลของพระภิกษุ และพิธีกรรมทางศาสนา
3. พระอภิธรรมปิฎก รวมหลักธรรมชั้นสูง
พระไตรปิฎกฝ่ายเถรวาทเป็นภาษามคธ ฝ่ายมหายานเป็นภาษาสันสกฤต
หลักธรรมที่ส าคัญ ได้แก่
อริยสัจ 4 คือ ความจริงอันประเสริฐ ได้แก่
1. ทุกข์ คือ ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ ได้แก่ ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย
2. สมุทัย คือ ต้นเหตุที่ท่าให้เกิดทุกข์ ได้แก่ ตัณหา 3 ประการ
3. นิโรธ คือ ความดับทุกข์ ได้แก่ การหมดกิเลส คือ นิพพาน
4. มรรค คือ ทางดับทุกข์ ได้แก่ อริยมรรค มีองค์ 8
พิธีกรรมที่ส่าคัญทางพุทธศาสนา ได้แก่
+ การบวช ได้แก่
- บวชเณร เรียกว่า บรรพชา
- บวชพระ เรียกว่า อุปสมบท
+ การเวียนเทียน ในวันส่าคัญ คือ วันวิสาขบูชา วันอัฏฐมีบูชา วันมาฆบูชา วันอาสาฬหบูชา