Page 141 - เมืองลับแล(ง)
P. 141
พ.ศ. ๒๓๐๘ มหาราชวงษ์พงศาวดารพม่า
พระเจ้ามังระได้มอบให้สีหะปะเตะ เป็นแม่ทัพเพื่อไปต ี
กรุงศรีอยุธยาครั้งนั้นเมืองลับแลออกสวามิภักดิ์เข้า
ร่วมทัพกับพม่า เมืองลับแล (เมืองลับแลง) จึงไม่ถูก
พม่าโจมต ี
สมัยธนบุร ี พ.ศ. ๒๓๑๕ พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับ
กองทัพพม่าของโปสุพลาที่มาอยู่ช่วยราชการรักษา พระพนรัตน์. หน้า ๓๙๗.
้
ั
เมืองเชียงใหม่ ยกกองทัพมาตีเมืองลบแลแตก แลวยก
ลงมาตีเมืองพิไชย แต่ไม่ได้เมืองพิไชย ฝ่ายพม่าจงถอย
ึ
ทัพกลับไปเมืองเชียงใหม่
กองทัพชาวยอง ร่วมกับกองทัพพม่าของโปสุพลา ยก ค่าวคนยอง ของ ศรีวิไชยา
ทัพมาตีเมืองลับแลแตก พร้อมบรรยายด่าน และ จากหนังสือ พม่ารบไทย ภาคปริวรรต
สัณฐานเมืองลับแลในขณะนั้น ก่อนเดินทัพไปยังเมือง ลำดับที่ ๓๖ โดย สถาบันวิจัยสังคม
พิชัย และพิษณุโลก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ.ศ. ๒๕๓๒
สันนิษฐานว่า เกี่ยวข้องกับ “ทุ่งม่าน”
บริเวณม่อนจำศีล
[ระบุเป็น พ.ศ. ๒๓๑๖ แต่พงศาวดารฝ่ายไทยระบุ
เหตุการณ์นี้เป็น พ.ศ. ๒๓๑๕]
พ.ศ. ๒๓๑๗ พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี ฉบับพัน
สำเนาท้องตราปีมะเมีย พ.ศ. ๒๓๑๗ ฉบับที่ ๕ จันทนุมาศ (เจิม). หน้า ๑๐๖ – ๑๐๗.
เจ้าพระยาจักรีบอกหนังสือมาถึงพระศรีสวัสดิ ว่า นาย
ฝองชาวเมืองลับแล หนีมาแต่กองทัพโปสุพลา (เจา
้
เมืองเชียงแสน) ให้การว่า พระเจ้าอังวะเป็นไข้ตาย
ลูกพระเจ้าอังวะขึ้นครองราชสมบัติแทน
สมัยรัตนโกสินทร ์ พ.ศ. ๒๓๒๘ มหาราชวงษ์พงศาวดารพม่า. หน้า ๓๙๐
พระเจ้าปดุงกษัตริย์ของพม่าได้ยกทัพมาทำสงครามกับ
แผ่นดินสยามเป็นศึกครั้งใหญ่ทรงจัดให้หวุ่นยีสะโตศ ิ
ริมหาอุชนาเป็นแม่ทัพยกพลมาทางเมืองเชียงใหม่
หลังจากตีเมืองนครลำปางได้แล้ว ให้ เนมโยจิสูปลด
ั
ทัพเป็นแม่ทพเมื่อมาถึงเมืองลับแลก็เข้าตีเมืองลับแล
ั
ได ้
พ.ศ. ๒๓๗๐ จดหมายเหตุรัชกาลที่ ๓ เล่ม ๓ หน้า
ู
หนังสือพระยาสมบัตบาลบอกมายังคณะลกขุนศาลาฯ ๑๑๘ ,๑๑๙
ิ
พระยาสมบัติบาลขึ้นไปเตรียมการอยู่ที่เมืองน้ำปาด
(ปัจจุบันคืออำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์) มีรายงาน
