Page 192 - เมืองลับแล(ง)
P. 192

และนางสุมาลาเป็นพระชายาซ้ายขวา และได้สร้างวังขึ้นใกล้เคียงกับวัดป่าแก้วเรไร (คือ บริเวณวัดเจดีย์คีรี

               วิหาร ยังมีทรากคูเวียงปรากฏอยู่) และเจ้าฟ้าฮ่ามกุมารก็ได้ขึ้นครองเมืองลับแลเป็นปฐมตั้งแต่ พ.ศ. ๑๕๑๓

               เป็นต้นมา ในครั้งนั้นอาณาเขตเมืองลับแลมีดังนี้

                       ทิศเหนือ      จดอำเภอเด่นชัย  จังหวัดแพร่

                       ทิศใต         จดอำเภอพิชัย  จังหวัดอุตรดิตถ์
                           ้
                       ทิศตะวันออก  จดท่าโพ  ท่าอิฐ  ท่าเซาว์  อำเภอเมือง  จังหวัดอุตรดิตถ์
                       ทิศตะวันตก    จดอำเภอศรีสัชนาลัย  จังหวัดสุโขทัย


                                                                                                    ่
                       เมื่อเจ้าฟ้าฮ่ามกุมารขึ้นครองเมืองแล้ว ก็มีราษฎรอพยพมาอยู่เพิ่มมากขึ้น  พระองค์ก็จัดสรรแบงบันท ี่
               ให้อยู่ คือ ราษฎรเชื้อสายเชียงแสน ตั้งบ้านอยู่ตั้งแต่ บ้านคอกช้าง  บ้านต้นเกลือ  ถึงบ้านท้องลับแล  ส่วนพวก

               เชื้อสายจากเวียงจันทน์ ซึ่งอพยพมาอยู่ด้วยให้ตั้งบ้านเรือนอยู่ทบ้านกระดาย  บ้านนาแต๊ว  บ้านนาทะเล  และ
                                                                   ี่
                                                                                                        ั
               บ้านปากฝาง  พระองค์ดำรงตนอยู่ในทศพิธราชธรรม ทรงปกครองราษฎรแบบบิดาปกครองบุตร โดยใช้หลก
               คุณธรรม ใช้พระคุณ ไม่ใช้พระเดช ตัดสินคดีความด้วยพระเมตตา อบรมสั่งสอนให้ราษฎรเป็นพลเมืองดี คราว

               ใดที่เกิดแผ่นดินแห้งแล้ง พืชผลไม่อุดมสมบูรณ์ ข้าวยากหมากแพงหรือเกิดโรคระบาด พระองค์จะเสด็จไปยัง

               ม่อนจำศีลเพื่อถือภาวนาอธิษฐานขอให้เหตุร้ายของบ้านเมืองจงสงบระงับลง ก็สำเร็จลงตามความปรารถนา

               เสมอมา ยังความรักและความเคารพศรัทธาจากราษฎรเป็นอันมาก



                       เรื่องที่ ๒ ด้านศาสนา

                       พระองค์มีจิตใจฝักใฝ่ในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง เมื่อ พ.ศ. ๑๕๑๙ พระองค์มีพระราชดำริจะสร้าง

                                                                                                      ุ
               พระสถูปเจดีย์ เพื่อประกาศศาสนาจึงได้เสดจไปยังโยนกนคร เพื่อขอแบ่งพระบรมสารีริกธาตุจากพระธาตดอย
                                                   ็
                                                                          ี
                                                                                                        ี
               ตุง  จังหวัดเชียงราย อัญเชิญมาบรรจุที่สถูปเจดีย์วัดป่าแก้วเรไร (วัดเจดย์คีรีวิหาร ปัจจุบัน) เจดีย์นี้จึงเป็นเจดย์
                                                                                                       ู้
                                                                                                  ู้
                                                                               ้
                                                                       ิ
               แห่งแรกของเมืองลบแลที่บรรจพระบรมสารีริกธาตุ (ปัจจุบันนี้กรมศลปากรไดขึ้นทะเบียนไว้ และมีผเฒ่าผแก่
                               ั
                                         ุ
               เล่าให้ฟังว่า ถึงวันศีล วันธรรม จะมีดวงไฟสุขสว่างลอยขึ้นเหนือพระเจดีย์อยู่เป็นประจำ)  และใน พ.ศ. ๑๕๒๕
               หลังจากปราบพวกขอมแล้ว พระองค์ก็เสด็จไปโยนกนครอีกครั้งหนึ่งเพื่อขอแบ่งพระบรมสารีริกธาตุจากพระ
               บิดาจำนวน ๓๒ องค์ เพื่อมาบรรจุไว้ที่สถูปเจดีย์วัดม่อนธาตุ  ซึ่งสร้างขึ้นใหม่และยังได้ทรงสร้างวัดชัยชุมพล
               และสร้างวัดดอนชัยขึ้นอีกด้วย










                                             การวิเคราะห์วรรณกรรมเมืองลับแล
                                                        หน้า ๔๒
   187   188   189   190   191   192   193   194   195   196   197