Page 316 - เมืองลับแล(ง)
P. 316

ข้อสังเกตจากตำนานพระแท่นศิลาอาสน์ เมืองทุ่งยั้ง



               ประการที่ ๑  พระญาศรีธัมมอโสกราช


                       เมื่ออ่านเนื้อความตำนานพระแท่นศิลาอาสน์ เมืองทุ่งยั้ง แต่ไม่ทราบว่าช่วง พ.ศ. ๒๐๐๐ กษัตริย์

               พระองค์ใดที่ใช้พระนามเป็น พระญาศรีธรรมอโศกราช หรือ พระญาธรรมอโศกราช คือพระองค์ใดที่มี

               บทบาทเกี่ยวข้องกับพื้นที่เมืองทุ่งยั้งและเมืองสวรรคโลก จากการอ่านตำนานพระแท่นศิลาอาสน์ เมื่อ พ.ศ.
                                                                                                    ื
               ๒๔๔๔ ของสมเด็จเจาฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์  บอกว่าเป็น “พระยาศรีธรรมโศกราชผู้ครองเมองศุโข
                                 ้
               ไทย” แล้วเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงคาดว่าจะเป็น “สมเด็จพระบรมไตร

               โลกนาถ”
                       แต่เมื่อพิจารณาจากบริบททางประวัติศาสตร์และเหตุการณ์ที่บอกในตำนานฯ แสดงถึงการยกทพไป
                                                                                                      ั
                                                                   ็
                                                         ่
               เมืองสวรรคโลก ใน พ.ศ. ๒๐๐๐ ซึ่งช่วงเวลาดังกลาวเมื่อสมเดจพระบรมไตรโลกนาถ แห่งกรุงศรีอยุธยา ทรง
               ปฏิรูปการปกครองโดยการรวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง ทรงลดบทบาทของเจ้านายท้องถิ่นโดยเฉพาะเจ้านาย
               จากหัวเมืองเหนือ (รัฐสุโขทัย) การพระราชทานตำแหน่ง(ศักดิ)นาทหารหัวเมือง เจ้าเมืองหรือผู้ครองเมือง

               สุโขทัยได้รับราชทินนามว่า “ออกญาศรีธรรมศุกราช ชาติบดินทรสุรินทฤๅไชย อภัยพิรียภาหุ” หรือ “ออกญา

               ศรีธรรมโศกราช ชาติบดินทรสุรินทฤๅไชย อภัยพิรียภาหุ” เจ้าเมืองศุกโขไท เมืองโท (ศักดิ)นา ๑๐๐๐๐ ซึ่ง
               ตำแหน่ง “ออกญา” หรือ “พระยา” (พระญา) เป็นตำแหน่งเจ้าเมืองปกครองเมืองสุโขทัยเท่านั้นไม่มีการระบุ

               จากเอกสารหลักฐานใดว่าเป็นผู้มีอิทธิพลมากในการยกทัพมาเมืองทุ่งยั้งและเมืองสวรรคโลกในสมัยนั้น ข้อ

               สันนิษฐานของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์จึงตกไปโดยปริยาย
                       ส่วนข้อสังเกตของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่คาดว่าจะหมายถึง สมเด็จพระบรมไตร

               โลกนาถ พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาที่ยิ่งใหญ่มากในช่วงเวลานั้น ที่มีการทำสงครามกับรัฐล้านนาแล้ว

               จะยกทัพผ่านมาในพื้นที่เมืองทุ่งยั้งและเมืองสวรรคโลกหรือไม่ ในปี พ.ศ. ๒๐๐๐ เมื่อเปรียบเทียบกับบริบท
               ของการเมืองในสมัยนั้นคือพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับหลวงประเสริฐฯ นั้น สมเด็จพระบรมไตร

               โลกนาถ ทรงได้เมืองเชียงชื่น (คือเมืองสวรรคโลก) คืนจากฝ่ายล้านนา เมื่อ พ.ศ. ๒๐๑๘ คือ เป็นระยะเวลาอีก

               ๑๘ ปีต่อมาที่สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถจะยกทัพผ่านเมืองทุ่งยั้งไปยังเมืองสวรรคโลกได้ อีกประการหนึ่ง
               สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถไม่เคยอ้างพระองค์เองเป็นดั่งพระเจ้าอโศกมหาราชในชมพูทวีป แม้แต่ใน

               วรรณกรรม ยวนพ่าย โคลงดั้น ยังยกพระเกียรติพระองค์เป็น “พระสรรเพชญ” (แปลว่าพระพุทธเจา) บ้าง /
                                                                                                  ้
                                                                           ั
                                                                                          ั
               ทรงพระเกียติยศดั่ง “รามราชฦๅไท” อดีตพระมหากษัตริย์แห่งรัฐสุโขทยบ้าง / ทรงเป็นด่งเทพเจ้าคือ “พระ
               นารายณ์” บ้าง (หรือพระวิษณุ ผู้เป็นใหญ่แห่งเมืองพิษณุโลก) ตามคติของกษัตริย์อยุธยา (อโยธยา) ที่สมมุต ิ
               เป็นองค์อวตารของพระนารายณ์หรือพระวิษณุ อันหมายถึง ผู้ทำหน้าที่คุ้มครองโลก ดั่งพระนาม ‘บรมไตร




                             มหาสรีธัมมติโลกราชะ : ติโลกราชกับอำนาจเหนือดินแดนเหนือล่าง


                                                        หน้า ๒๘
   311   312   313   314   315   316   317   318   319   320   321