Page 319 - เมืองลับแล(ง)
P. 319
“...พระยาติโลกราชเจ้านครพิงค์เชียงใหม่เสด็จยกทัพหลวงไปเมืองสองแควเพื่อจะป้องกันเอาเมือง
ฝ่ายเหนือแห่งกรุงพระนครศรีอยุทธยา จึงเสด็จไปตั้งทัพอยู่ ณ เมืองทุ่งยั้ง มีรี้พลทัพหลวงสี่หมื่น ทัพหัว
เมืองหมื่นหนึ่ง รวมเปนห้าหมื่น แล้วยกไปตั้งอยู่ข้างแม่กรังในเมืองสองแคว ๒๐ วัน..”
จากการปริวรรตแปลความโดยใชคำเชื่อมจึงทำให้บริบทของความหมายของเหตการณ์ – สถานที่ นั้น
ุ
้
คลาดเคลื่อนไปด้วย ซึ่งไม่พบว่ามีลำน้ำ(แม่น้ำ)ที่มีชื่อว่า “แม่กรัง” หรือ “แม่กั้ง” ในเขตจังหวัดพิษณโลก แต ่
ุ
กลับพบว่า ชื่อของลำน้ำ “แม่กั้ง” อยู่ในเขตบ้านแม่กั้ง ตำบลด่านนาขาม อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ (ก่อน พ.ศ.
๒๕๐๕ ตำบลด่านนาขามขึ้นกับอำเภอลับแล) จึงเป็นไปได้ว่ากองทัพหลวงของเจ้าพระญาติโลกราช แห่ง
ล้านนาเชียงใหม่ ที่เคลื่อนทัพมาทางเมืองแพร่ ผ่านมาบริเวณลำน้ำ “แม่กั้ง” เชิงเขาพลึง ก่อนที่จะถึงเมืองทง
ุ่
ยั้ง อันเป็นพื้นที่ราบลุ่มและเป็นเมืองโบราณของรัฐสุโขทัยและรัฐอยุธยา
กรณีการยกทัพของเจาพระญาติโลกราชเขามายังเมืองทุ่งยั้งอาจเป็นที่จดจำเป็นเรื่องเลาสบตอกันมา
้
่
ื
้
่
ในเชิงตำนาน เจ้าฟ้าฮ่ามกุมารกษัตริย์แห่งเมืองลับแลยกทัพมารบกับเมืองขอมทุ่งยั้ง บริเวณบ้านนาทะเล จน
ได้เมืองทุ่งยั้งในที่สด
ุ
ดังนั้นเมืองทุ่งยั้งจึงเป็นเมืองที่ หยุดยั้ง / พักทัพ ของเจ้าพระญาติโลกราชแห่งเชียงใหม่ ตั้งแต่ พ.ศ.
ื
ี่
๑๙๙๔ เป็นต้นมา จนเกิดเป็นวาทกรรมทสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ บันทึกไว้ว่า “เมองทุ่งยั้งนี้
เพราะเป็นที่พระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์ มายับยั้ง จึงได้นามว่า ทุ่งยั้ง”
ทั้งนี้ยังมีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเมืองทุ่งยั้งในตอน เรื่องอรุณกุมารเมืองสวรรคโลก ใน พงศาวดารเหนือ รวม
รวมตำนานเรื่องเล่าเมืองเหนือไว้โดย พระวิเชียรปรีชา (น้อย) แล้วพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
ู
รัชกาลที่ ๒ (ขณะพระอิสริยยศ สมเด็จกรมพระราชวังบวรสถานมงคล – สมเด็จพระอุปราช) นำขึ้นทลเกลาฯ
้
ถวายรัชกาลที่ ๑ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๕๐ ดังนี้
๏ แลพระยาธรรมราชาเจ้าจึงให้หาชะพ่อชีพราหมณ์ ชุมนุมกันพิภาษเอาพระธาตุพระพุทธเจ้าขึ้นมาบรรจไว้
ุ
ในเมือง จึงให้ช่างก่อที่บรรจุพระธาตุ จึงให้บาพิศณูคนหนึ่ง บาชีพิศคนหนึ่ง บาฤทธิรจนาคนหนึ่ง บาอินท ์
คนหนึ่ง บาพรหมคนหนึ่ง บาทั้งห้าคนนี้ย่อมเปนช่างคิดอ่านด้วยกันว่าเราทำให้ดูงาม ดูหลากกว่าช่าง
ทั้งหลายในแผ่นดินนี้ ครั้นคิดด้วยกันแล้ว จึงให้ตัดเอาแลงมาทำเปนแผ่นยาว ๓ ศอก กว้างศอก ๑ ยาว ๕
ศอก กว้าง ๒ ศอก ทำเปนบัวหงาย แลน่ากระดานแลชานทรงมันให้งาม จึงขุดเปนสระกรุด้วยแลงทำด้วย
้
์
็
็
ปูน จึงตั้งฐานชั้นหนึ่ง แลสมเดจพระเจ้าธรรมราชาธิราชเสดจไปดวยชะพ่อชพราหมณทั้งหลาย ถึงตนไม้รัง
ี
้
ี
ซึ่งแร้งทำรังนั้นแล้วจึงขุดเอาผะอบแก้วใหญ่ห้ากำใส่พระธาตุ นั้นขึ้นมา จึงบูชานมัสการด้วยดอกไม้ธูปเทยน
แล้ว เชิญพระธาตุมาถึงเมืองแล้ว พระธรรมราชาเจ้าจึงป่าวร้องแก่คนทั้งหลายผู้ศรัทธา ก็เอาทองมา
ประมวญกันได้ ๒๕๐๐ ตำลึงทอง ให้ช่างตีเปนสำเภาเภตรา จึงใส่พระธาตุพระพุทธเจาลอยอยู่ในน้ำบ่อ จง
ึ
้
มหาสรีธัมมติโลกราชะ : ติโลกราชกับอำนาจเหนือดินแดนเหนือล่าง
หน้า ๓๑