Page 321 - เมืองลับแล(ง)
P. 321

ข้อสังเกต :  การอภิเษก เจ้าอุโลกกุมาร (=หรือเจ้าพระญาติโลกราช) ให้เป็น พระยาศรีธรรมาโสกราช

               อันเป็นสมัญญาของเจ้าพระญาติโลกราช ที่ได้เฉลิมนามาภิไธยอีกพระนามหนึ่ง  แล้วบอกว่า เจ้าอุโลกกุมาร
               หรือพระยาศรีธรรมโสกราช เป็นกษัตริย์ในเมืองหริภุญไชย (=เมืองลำพูน) นั่นคือศูนย์กลางราชธานีเดิมของ

               ดินแดนล้านนา ในเขตลุ่มแม่น้ำปิง อันเป็นเมืองศูนย์กลางของพระพุทธศาสนา


                                                                                                     ู
                       (๓)  “ก็ได้ชื่อว่ากัมโพชนครคือเมืองทุ่งยั้ง แลให้สาสนนั้นไปถึงบ้านบุรพคาม ตกแต่งกำแพงแลคให้ทำ
                                                                         ี
                                                          ู้
                                                                                            ้
               พระราชวังให้ บริบูรณแล้ว จึงให้ชะพ่อชีพราหมณ์ผใหญ่มารับเอาเจ้าสหกุมารไปราชาภิเศกดวยนางพราหมณ  ี
               นั้น จึงให้ชื่อเมืองบริบูรณ์นคร”
                       ข้อสังเกต :  เป็นการกล่าวถึง เมืองกัมโพชนคร คือ เมืองทุ่งยั้ง จนได้รับสมญานามของเมืองว่า เมอง
                                                                                                       ื
               บริบูรณ์นคร แปลว่า เมืองที่มีความอุดมสมบูรณ  ์


                                                                                        ั
                                                                                    ื
                       (๔)  “แล้วให้กำหนดกฎหมายไว้ทุกน่าด้าน แล้วให้กำหนดกฎหมายไปถึงเมองกมโพชนคร ให้กำหนด
               กฎหมายสืบ ๆ กันไปถึงเมืองคิรี เมืองสวางคบุรี เมืองยางคิรี นครคิรี เมืองขอนคิร แลเมืองเหล็ก เมืองสิง
                                                                                      ี
                                                                                                     ่
               เทา เมืองทั้งนี้ขึ้นแก่เมืองกัมโพชนคร ท้าวพระยาตกแต่งบ้านเมืองทุกแห่ง แลเมืองพิบูลย์นคร อันขึ้นแกเมอง
                                                                                                       ื
               หริภุญไชยคือเมืองลำพูนทุกวันนี้ แลเมือง ๘ หัวเมืองนั้น ให้แต่งเครื่องสาตราวุธแลตรวจด่านทาง ให้แตงคน
                                                                                                      ่
               เร็วม้าใช้ไปฟังข่าวแก่กันให้เปนอันหนึ่งอันเดียวทุกเมือง”
                       ข้อสังเกต :  เป็นการกล่าวถึงการประกาศกฎหมายไปถึงเมืองกัมโพช (=ทุ่งยั้ง)  อันเป็นเมืองประธาน

               และมีเมืองบริวาร ๘ หัวเมือง คือ (๑)เมืองคิรี (๒)เมืองสวางคบุรี (๓)เมืองยางคิรี (๔)นครคิรี (๕)เมืองขอนคิรี
               (๖)เมืองเหล็ก (๗)เมืองสิงเทา (๘)เมืองพิบูลย์นคร  แล้วให้หัวเมืองทั้ง ๘ เมืองนั้นขึ้นตรงกับเมืองหริภุญไชย

               หรือเมืองลำพูน นั่นคืออาณาบริเวณอารยธรรมลุ่มแม่น้ำปิงเมืองลำพูน เมืองเชียงใหม่ อันเป็นศูนย์กลางแห่ง

               ราชธานีของรัฐล้านนาในรัชสมัยเจ้าพระญาติโลกราช


                       ทำให้เห็นได้ว่าวาทกรรมเกี่ยวกับเจ้าพระญาติโลกราช แห่งล้านนาที่มีต่อเมืองทุ่งยั้ง ยังถูกจดจำเป็น

               เรื่องเล่าสืบมาจนมีการรวบรวมไว้ใน พงศาวดารเหนือ สมัยรัชกาลที่ ๑ โดยการผูกโยงเรื่องราวเข้ากับบริบท
               ของตำนานนิทานปกรณัมท้องถิ่นที่ไม่สามารถแยกออกได้ได้อย่างชัดเจน



                     ประการที่ ๓  พุทธศักราช ๒๐๐๐ กับความเกี่ยวข้องกับพระแท่นศิลาอาสน์ เมืองทุ่งยั้ง


                     จากตำนานพระแท่นศิลาอาสน์ เมืองทุ่งยั้ง ทั้ง ๒ ฉบับ คือ






                             มหาสรีธัมมติโลกราชะ : ติโลกราชกับอำนาจเหนือดินแดนเหนือล่าง


                                                        หน้า ๓๓
   316   317   318   319   320   321   322   323   324   325   326