Page 394 - เมืองลับแล(ง)
P. 394

ประเด็นที่ ๑ ทรงรู้จักนิสัยของสามเด็กย้อยเป็นอย่างดี แม้ว่าพระองค์จะทรงมีพระกรุณาและให้เกียรต ิ

               สูงแล้วก็ยังคิดไม่ซื่อต่อพระองค์ ส่วนลูกมิได้ให้ความกรุณาแก่บุคคลนั้นเทียบเท่าพ่อได้ แม้จะได้ชื่อว่าเป็น
               ผู้สนับสนุนลูกให้เป็นกษัตริย์ก็ตาม คนผู้นี้อาจจะคิดคดไม่ซื่อต่อลูกได้ จึงแนะนำว่าอย่าชุบเลี้ยงสามเด็กย้อยโดย

               การแต่งตั้งให้มียศมีอำนาจเลย


                                                                                                         ้
                      ประเด็นที่ ๒ ในคำกล่าวของพระญาผู้เป็นพ่อได้แสดงถึงความหวาดต่อราชภัยจากลูก จึงใช้คำว่า “เจา
                                                                                                     ี่
                                               ู
               ลูกรักพ่อ” และยังกล่าวในเชิงรู้ทันว่าลกอาจเนรเทศตนเป็นการตอบแทนบ้าง แล้วตรัสว่าส่วนพ่อนี้พึงใจทใด ก็
                                                                                                         ั่
               จะขอไปอยู่ที่นั่น คือจะไม่ขออยู่ขวางหูขวางตากษัตริย์พระองค์ใหม่นั่นเอง เจ้าท้าวติลกจึงส่งพระญาสามฝง
                                       1
               แกนไปประทับอยู่ที่เมืองสาด
                                                                                ์
                      หลังจากนั้นท้าวลกจึงได้จัดพระราชพิธีราชาภิเษกเป็นกษัตริย์องคที่ ๙ แห่งราชวงศ์มังราย ขณะ
               พระชนมายุได้ ๓๓ พรรษา ทรงพระนามว่า “มหาศรีสุธัมมติโลกราชชะ” หรือ พระญาติโลกราช แล้วทรงตง
                                                                                                         ั้
                                                             2
               นายสามเด็กย้อยให้เป็น “แสนขาน” ซึ่งไปกินพันนาขาน  ดำรงยศเป็น “เจ้าแสน” อันเป็นลำดับยศที่สูงสุดของ
               ข้าราชบริพาร ถัดมาเพียง “เดือนปลาย ๑๕ วัน” คือ ๔๕ วันเท่านั้น แสนขาน ก็บังเกิดใจไม่ซื่อหวังชิงราช

               สมบัติเมืองเชียงใหม่ “เปนดั่งพระญาตนพ่อทำนายไว้นั้นแท้”  แสนขานได้เข้าไปยึดท้องพระโรงคุ้มหลวงไว้
                                                                 3
                      พระญาติโลกราชโปรดให้ “หมื่นลกนคร” ผู้ครองเมืองนครลำปางมีฐานะเป็น “อาว” คือ มีพระยศ

                                 4
               น้อยกว่าพระราชบิดา  โดยทรงมอบภาระให้ว่าจะดำเนินการอย่างไรก็ได้ เพียงแต่อย่าฆ่าแสนขานเพราะบุคคล
               ดังกล่าวทำให้พระองค์ได้ราชสมบัติ ครั้งนั้นหมื่นลกนครมาพร้อมกับ “ชาวนครถือเครื่องมาพุ่น ๘๐๐๐ คน”
                                                                                              ั
                                              ้
                                                                                                 ั
               ชาวนครลำปางพร้อมอาวุธได้ทยอยเขาไปเบียดอัดดันกันเข้าไปในท้องพระโรงจนแสนขานต้องขยบตวไปเรื่อยๆ
               จนในที่สุด หมื่นลกนครก็คว้าแขนแสนขานไว้กรอกหูว่า “บ่ใช่ที่เราอยู่ บ่ควรแล” เป็นการบอกว่าแสนขานจะ
                                                                            5
               คิดเป็นกษัตริย์ไม่ได้ แล้วให้เอาแสนขานไปไว้ที่อีกฟากหนึ่งของเหมืองแก้ว  ต่อมาโปรดให้กินพันนาทวน ลดยศ
                                                                                                    ิ
               เป็นชั้นหมื่น เรียกว่า หมื่นทวน “พายลูน เจ้าเหนือหัวจึ่งร่ำเพิงว่า ควรเลี้ยงหื้อมันไพกินเมืองแวนไกลเทอะ ว่า
                                                   6
               อั้นแล้วค็ส่งหื้อไพกินเมืองเชียงแสน หั้นแล”  หมื่นทวน (นายสามเด็กย้อย) จึงได้ไปครองเมืองเชียงแสน ไดชอ
                                                                                                       ้
                                                                                                         ื่
               ว่า “เจ้าแสน” / “แสนขาน” เป็นการเอาใจที่ได้ช่วยให้ตนได้ราชสมบัต  ิ




                      1  เมืองสาด เป็นเมืองที่อยู่ในเขตไทยใหญ่ทางทิศเหนือห่างจากเมืองเชียงใหม่ ๓๐๐ กิโลเมตร
                      2  “พันนาขาน” ปัจจุบันอยู่ใน อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่

                      3  ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ฉบับ เชียงใหม่ ๗๐๐ ปี, ๒๕๓๘, หน้า ๖๐.
                      4  ในภาษาไทยเหนือ (ล้านนา) ไม่ได้จำเพาะว่า “อาว” จะมีอายุน้อยกว่าพ่อเท่านั้น ยังหมายถึงผู้ที่มียศศักดิ์ต่ำกว่าพ่อ
               ก็เรียก “อาว” ได้เช่นกัน หรือใครก็ได้ที่มีอายุน้อยกว่าพ่อและแม่

                      5  เหมืองนี้อยู่ในท้องที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเหมืองที่อ้ายฟ้า หลอกพญายีบา นำชาวบ้านไปขุด จน
               ชาวเมืองลำพูนแตกสามัคคี พระญามังรายจึงได้หริภุญไชย เดิมชื่อ เหมืองแข็ง เปลี่ยนชื่อเหมืองสมัย พระญากือนา
                      6  ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ฉบับ เชียงใหม่ ๗๐๐ ปี, ๒๕๓๘, หน้า ๖๐ – ๖๑.

                                     เจ้าหมื่นด้งนคร : ผีอารักษ์ และมายาคติทางประวัติศาสตร์

                                                        หน้า ๑๐
   389   390   391   392   393   394   395   396   397   398   399