Page 98 - เมืองลับแล(ง)
P. 98

ประเด็น ๓ เมืองชากังราว – เมืองซาก และเมืองพิชัย



                       ในปัจจุบันการเขียนประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่มักจะอ้างว่าเมืองชากังราวคือเมืองกำแพงเพชร แต่

                                   ิ
                         ึ
                                                 ์
               จากการศกษาของ พเศษ  เจียจันทรพงษ์ ได้เสนอว่า เมืองชากังราวไม่ใช่เมืองกำแพงเพชรและ
                                                                     75
                                                   ู่
                                                                                 ุ
               เมืองชากังราวควรเป็นเมืองที่ตั้งอยในลุ่มแม่น้ำน่าน   โดยมีเหตผลอ้างถึงในหลายประการ
               กล่าวคือ
                       ชื่อของเมือง “ชากังราว” มีที่มาจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ได้แก่

                       (๑)  จารึกหลักที่ ๘ เขาสุมนกูฏ ด้านที่ ๔ ในบรรทัดที่ ๔ - ๑๔ ระบุชื่อเมืองประกอบด้วย “...มี

               ทั้งชาวสรลวงสองแฅว ปากยม พระบาง ชากนราว          สุพรรณภาว นครพระชุม เบื้อง__ เมืองพาน

                                                                       76
                                                               ิ
               เมือง__ เมืองราด เมืองสะค้า เมืองลุมบาจาย เป็นบรพาร...”   การที่จารึกเขียนว่า “ชากนราว” คง
               เป็นคำเดียวกับ “ชากังราว”


                       (๒)  พระไอยการลักษณลักภา พ.ศ. ๑๘๙๙ ตรงกับสมัยสมเด็จพระรามาธิบดี ที่ ๑ ระบุว่า

                                                                                  ี
                                                         ่
               “นายสามขลาเสมียนพระสุภาวะวีบังคมทูลแตสมเดจ์พระเจ้ารามาธิบดีศรบรมจักรพรรดิราชาธิราช
                                                                  ่
                       ิ
                                                                     ี
                                         ู่
                                ุ
                                                           ี
               บรมบพตร พระพทธิเจ้าอยหัวประสงด้วยข้าหนเจ้าไพรหนนาย แลมีผู้คนเอาไปถึงเชลียงศุกโขไท
               ทุ่งยางบางยมสองแก้วสหลวงชาวดงราวกำแพงเพช เมืองท่านเปนอันหนึ่งอันเดียวกันดั่งน” และได       ้
                                                                                                  ี้
                   ้
                      ่
                                                                                  ้
               กล่าวตอไปว่า “อย่าว่าข้าหนีเจ้าไพร่หนีนาย แลเขาลักไปขายถึงเชลียงทุ่งยางบางยมสหลวงสองแก้ว
                                                       ้
                                                 ้
                                                               77
                                                                                  ี้
               ชาวดงราวกำแพงเพชสุกโขไท ใตหล้าฟาเขียว”   ในพระไอยการนเขียนว่า “ชาวดงราว” คง
                                                                  ้
               หมายถึง “ชากังราว” นนเอง จะเห็นว่าข้อความที่ยกมานีเขียนชอเมืองโดยเขียนติดกันไม่เว้นวรรค ไม่มี
                                    ั่
                                                                       ื่
                       ื
               ความหรอลักษณะที่บอกแต่อย่างใดว่าเมืองใดคู่กับเมืองใด หากจะจับคู่โดยเอาชื่อที่ ๑ คู่กับชื่อที่ ๒ ชอ
                                                                                                        ื่
                                                                                             ่
                         ่
               ที่ ๓ คู่กับชือที่ ๔ ตามลำดับจนครบทั้ง ๘ ชอก็จะทำให้ชาวดงราวคู่กับกำแพงเพชร แตตามประโยคที่
                                                      ื่
                              ั
               เป็นพระราชดำรสตอบได้ลำดับชื่อเมืองใหม่โดยเอาเมืองศุกโขไทซึ่งเดิมลำดับไว้เป็นชื่อที่ ๒ แต่มาคราว
                 ี้
                                                                             ั้
                                                                                        ุ
                                                                                                       ้
                                                                                               ่
               นได้ลำดับไว้เป็นชื่อสุดท้าย ทำให้การจับคู่ตามแบบเดิมเปลี่ยนไป ดังนนจึงไม่มีเหตผลใดทีจะอ้างไดว่า
               “ชาวดงราว” คู่กับ “กำแพงเพชร” แท้จริงแล้วการยกทั้งชื่อเมืองทั้งแปดมากล่าวนนเห็นเจตนาได้ว่า
                                                                                          ั้
               เป็นการยกตัวอยางชื่อเมืองในกลุ่มเมืองเหนือที่เห็นว่าอยู่ไกล ดังวลีว่า “ใต้หล้าฟ้าเขียว” หมายถึงระยะ
                              ่

                       75  พิเศษ  เจียจันทร์พงษ.  ๒๕๔๕. หน้า ๑๗๑ - ๑๙๑. บทความนี้พิมพ์ครั้งแรกในวารสาร ศิลปวัฒนธรรม
                                          ์
               ปีที่ ๑๗, ฉบับที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๓๙, หน้า ๑๘๐ – ๑๘๘.
                       76  ประชุมจารึก ภาคที่ ๘ จารึกสุโขทัย. หน้า ๙๗.
                       77  มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง, ๒๕๒๙. หน้า ๑๒๔ – ๑๒๕.
                                          เมืองลับแล(ง) ประวัติศาสตร์และข้อค้นพบใหม่
                                                        หน้า ๘๖
   93   94   95   96   97   98   99   100   101   102   103