Page 96 - เมืองลับแล(ง)
P. 96
ประเด็นและข้อสังเกตเพิ่มเติม
ประเด็น ๑ ข้อเท็จ – ข้อจริง
ปัจจุบันยงเชอถือกันโดยส่วนใหญ่ว่าชาวลับแล-เมืองลับแล มีที่มาจากเมืองเชยงแสน มี ๓
ี
ั
ื่
ทฤษฎี คือ
้
ทฤษฎีที่ ๑ ของเจ้านายที่เสด็จมาในพนที่ลับแลสมัยรชกาลที่ ๕ คือ สมเด็จเจ้าฟาฯ กรมพระ
ั
ื้
ุ
ยานริศรานุวัติวงศ์ ใน “จดหมายระยะทางไปพิษณุโลก” พ.ศ. ๒๔๔๔ ระบุว่า “ชาวบ้านนเปนลาวพง
ี้
่
่
่
็
ดำเตมตัว แปลว่า สาดมาแตแพร แลนครลำปาง กับนาน” และ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ใน “เที่ยวตามทางรถไฟ” รวบรวมเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔ บอกว่า
“เมืองลับแลไม่มีวัตถุโบราณอันใดให้แลเห็นเค้าเงื่อนว่าจะเป็นเมืองเก่า ใน
ี
ทำเนยบก็ว่าเป็นเมืองขึ้นของเมืองพิไชย แต่คงเป็นเมืองมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็น
ื่
ราชธานี เพราะมีชอปรากฏในพงศาวดารสมัยเมื่อแรกตั้งกรุงธนบุรี เมื่อพิจารณาดู
ิ
ั้
ภูมิที่กับพวกชาวเมืองประกอบกับสันนษฐานว่า เมืองลับแลน เดิมเห็นจะเป็นที่ตง
ี้
้
ซ่อง คือ พวกชาวเมืองแพร เมืองนาน ที่หนข้าศก หรอความเดือดรอน ด้วยเหต ุ
่
ึ
ี
ื
่
้
ี
ั
ั้
ู่
อยางอื่นพากันอพยพครอบครวมาตงซุ่มซ่อนหาเลียงชพอยในที่น ด้วยเป็นที่ป่าดง
่
ี้
และอยู่ชายเขตแดนเมืองแพร่และเมืองพไชย ทั้ง ๒ ฝ่าย ครั้นนานมาผู้คนเห็นเป็นที่
ิ
หาเลียงชพได้สะดวก ก็อพยพพากันลงมาตงภูมิลำเนามากขึ้นทุกที จนถึงตงเป็น
้
ั้
ั้
ี
เมืองขึ้นของเมืองพิไชย”
ื่
จากการบันทึกของเจ้านายทั้ง ๒ พระองค์ ทำให้เชอกันว่า ชาวลับแลไดหนหรืออพยพมาจาก
้
ี
่
ู่
่
เมืองแพร เมืองนาน เมืองลำปาง ที่เป็นจังหวัดที่อยตอนบนมีเขตแดนติดกับจังหวัดอุตรดิตถ์อพยพมา
อาศัยอยู่ในพนที่เมืองลับแล
ื้
ุ
ุ
ทฤษฎีที่ ๒ ของพระครสิมพลีคณานยต บอกว่า ชาวลับแลมีที่มาจาก “โยนกสิงหนวัตินคร
ู
ิ
ิ
ี้
ไชยบุรีศรีเชียงแสน” อันมีเค้าโครงมาจากตำนานสิงหนวัตกุมาร [ตำนานนมีรากมาจาก คัมภีร ์
ื
์
มหาวงศ ของลังกา] หรอที่พระครสิมพลีคณานยต เรยกว่า “พงศาวดารภาคพายพ” ได้ทำการเรยบ
ิ
ั
ี
ู
ุ
ุ
ี
่
เรยง “ประวัตเมืองลับแล” เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๓ จนเป็นที่เผยแพรอยางเป็นทางการของมโนทัศน ์
ี
่
ิ
ประวัติศาสตร์เมืองลับแล มีการผูกตำนานท้องถิ่นให้เข้ากับตำนานสิงหนวัติกุมาร
เมืองลับแล(ง) ประวัติศาสตร์และข้อค้นพบใหม่
หน้า ๘๔