Page 172 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 172

ิ้
               เดินซัดเซพเนจรติดตามหาพ่อแม่ พบผลไม้ป่าก็กินพอประทังชีวิตไป จนไปพบคนที่ลี้ภัยด้วยกันก็พูดถามเขาลน
               แข็งพูดไม่เป็นคำเสียแล้ว เขาก็เอาข้าวสุกตากแห้งให้อมแล้วก็เดินทางต่อไปถามเขาไปจนพบพ่อแม่
                       อนึ่งวัดมูล ตรงใต้วัดใหม่ฝายหลวง เป็นต้นวัดเดิมมาถึงปลายยุคอาณาจักรลานนาเกิดไฟไหม้วัดมูล

               พุทธบริษัทจึงพากันย้ายไปสร้างขึ้นที่ดอยฟากทุ่งน้ำท่วมใช้ชื่อเดิมว่า วัดดอยมูล ได้ชื่อเพิ่มเติมมาอีกพยางค ์

               หนึ่ง และก็ปล่อยที่วัดมูลให้เป็นร้างไป ต่อมาคราวข้าศึกม่าน เข้ายึดครองเมืองลับแลเพื่อจะปลอบขวัญ
               ชาวเมืองลับแล พวกม่านก็สร้างวัดขึ้นตรงที่วัดมูลร้างให้ชื่อว่า วัดทับใหม่ ติดตั้งยกหงษ์ทองขึ้นไว้บนยอดเสา

               เป็นสัญลักษณ์ของหงษาวดี ประเทศพม่า และในยุคพม่ายึดอำนาจครองเมืองลับแลอยู่นั้น พวกม่านเขาก็จะ

                              ิ
                                                                                                ั
                                                ู
               สร้างหงส์ทองไปตดไว้ที่วัดทุกวัด มองดแต่ผิวเผินก็สวยงามดแต่มันเป็นหนามแทงหัวใจ เมื่อกองทพไทยไดขับ
                                                                 ี
                                                                                                       ้
               ไล่พม่าออกไปแล้วชาวลับแลก็ปล่อยให้วัดทับใหม่เป็นวัดร้างอีก และก็ทำลายหงส์ทองทิ้งกันไปหมดท่วทุกวัด
                                                                                                   ั
               เพราะเกลียดชังพวกพม่ามาข่มเหงคะเนงร้าย



               เรื่องที่ ๑๘  ความวิวัฒน์ของเมืองลับแล


                       ถิ่นทำมาหากินของชาวลับแล ทางทิศตะวันออกถึงแม่น้ำริดชายเขานานกกก ด่านนาขาม ไฮ่ฮ้า แม่

                                                                                        ้
               เฉย แต่เดิมมาก็บอกไปทำไร่ทำนาปลูกห้างอยู่เป็นครั้งคราว เมื่อหมดฤดูงานแล้วก็กลับเขาบ้าน นานเข้าก็เลย
               ยกบ้านเรือนอยู่กันตามหัวไร่ปลายนา นานเข้าก็เป็นปึกแผ่นแน่นหนา เป็นหมู่เป็นตำบลขึ้น ชาวพายัพนิยม

               เรียกว่า ลับแลน้อย แต่ชาวเมืองลับแลกันเองนิยมเรียกบ้านดังกล่าวนี้ว่า บ้านนอก ซึ่งโยกย้ายมาจากลับแล
               หลวง ถือระเบียบประเพณีแบบแผนทั้งฝ่ายอาณาจักร และพุทธจักร ฉบับเดียวกันกับเมืองลับแลหลวงทุกอย่าง

                       เมืองลับแลเป็นดินแดนแห่งผลไม้หวาน สายธารน้ำใสสะอาดเจริญไปด้วยทรัพยากรธรรมชาต      ิ

               แวดล้อมด้วยขุนเขามาถึงสมัยกลางของกรุงรัตนโกสินทร์ เมืองลับแลเริ่มรู้จักของอาคันตุกะต่างแดนมาเยือน
                                                                                                       ี่
               อย่างไม่ขาดสาย แม้กระทั่งพระมหากษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ชั้นผใหญ่ ซึ่งมีสมเด็จพระปิยมหาราช รัชกาลท ๕
                                                                    ู้
                                                                                                       ี
               เสด็จมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๓ ชาวลับแลมีความ ปิติยินดีมาก จัดต้อนรับเสด็จเป็นพิเศษ ราษฎรใจสิงห์เต็มเป่ยม
                                                               ั
                                                                             ่
                                                           ่
               ด้วยกุศลศรัทธานั้นคือ นายทองอิน ได้บริจาคทรัพย์สวนตวสร้างถนนตั้งแตลบแลไปถึงบางโพ ต่อมาเมื่อ พ.ศ.
                                                                              ั
                                                                                                ุ่
                                                                                                      ้
               ๒๔๔๔ ทรงโปรดฯ ให้ย้ายศาลากลางเมืองพิชัยมาตั้งที่บางโพ แต่ให้เรียกว่าเมืองพิชัย ให้ยุบเมืองทงยั้งแลวยก
               ฐานะลับแลขึ้นเป็นเมือง และให้ขึ้นตรงต่อเมืองพิชัย พระยาพิศาลคีรีได้ย้ายททำการเมืองทงยั้งมาตงทม่อนจำ
                                                                                                 ั้
                                                                                                   ี่
                                                                               ี่
                                                                                          ุ่
                                                                                                        ิ
               ศีล ซึ่งเป็นเนินเขาเตี้ย ๆ ใกล้ทุ่งม่าน อยู่ที่ใจกลางเมืองลับแล พ.ศ. ๒๔๔๖ พะกาหม่อง หัวหน้าชนเผ่าเงี้ยวคด
                                                                                                        ั
               การกบฏขึ้นกับเจ้าพิริยะ น้อยเทพวงศ์ เจ้าผู้ครองนครเมืองแพร่ ก่อการจลาจลเข้ายึดเมืองแพร่ได้แล้วกรีฑาทพ
               ไปตั้งค่ายที่บริเวณปางอ้อเหนือเขาพลึง เพื่อยกกองทัพลงมาตีเอาเมืองอุตรดิตถ์และเมืองลับแล
               สมุหเทศาภิบาล ผู้สำเร็จราชการมณฑลพิษณุโลกได้มีคำสั่งให้พระยาศรีสุริยราชวราวัตร์ (โพธิ์  เนติโพธิ์) เจา
                                                                                                        ้
                                                                                                        ุ่
               เมืองอุตรดิตถ์ เกณฑ์ประชาชนเมืองอุตรดิตถ์ เมืองลับแล ให้จัดเป็นกองทัพ ประชาชน ยกไปขัดตาทัพที่ทง
                                             การวิเคราะห์วรรณกรรมเมืองลับแล
                                                        หน้า ๒๒
   167   168   169   170   171   172   173   174   175   176   177