Page 263 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 263
หอเจ้าตนอารักษ์หลักเวียง แลแป๋งผามโองคำเจ้าติโลกะราชาฟ้าฮ่ามออกข่วงสมโภชไคว่ครบ ๓ วัน ชาว
ฟ้อน ชาวเหล้น ชาวยิงชาวปี ม่วนงันค่ำเช้าชุมื้อ ก็สมเร็ดดั่งใจหมาย ก็มีในวันเดือน ๖ เหนือ เป็ง ๑๓
ค่ำ นับวันเจ้าพญาตนเกล๊าเข้าได้เวียงนั้น ชะแล
(ฉบับที่ ๒)
ขึ้นปีกดเม็ด จุลศักราชได้ ๙๕๒ ตัว ศาสนาล่วงได้ ๒๑๓๓ ปีข้าว พระญาเจ้านเรศขึ้นนั่งเวยงใตสรโยธิ
ี
ี
้
ยา มีใบท้องตราบอกตั้งเจ้าหนานสองเรือน บุตรเจ้าหมื่นฅำกองแลนางเวียงแก้วช่อเทว ขึ้นกินเวยงลับ
ี
ี
แลงไจย แลยกเวียงขึ้นแก่พญาพิไชย ปีนั้นเจ้าสองเรือนได้ทะรงเถิงยังองค์สังฆาธุเจ้า แลตั้งราชวัตรฉตร
ั
ตุง ส่งสืบชะตาเวียงตามแนวไจยมังคลาสถาน ตามรีดเดิมออนก่อนหนเจ้าพระญาตนเกล๊าเจ้าติโลกะ
ราชาฟ้าฮ่าม แลตั้งข่วงพิธีไหว้สาแต่งขันน้ำขะมิ้น ส้มป่อย ดอกสาระปี ใบแหน่ง ข้าวของโภชนังมังสา
ั่
็
ออกสระสรงยังโฮงหอเจ้าตนอารักษ์หลักเวียง แลแป๋งผามโฮงฅำเจ้าติโลกะราชาฟ้าฮ่าม / ก็สมเรดดงใจ
หมาย ก็มีในวันเดือน ๖ เหนือ เป็น ๑๓ ค่ำ นับวันเจ้าพระญาตนเกล๊าเข้าเวียง นั้น ชะแล
์
เป็นการกล่าวถึงเหตุการณใน พ.ศ. ๒๑๓๓ ตรงกับพระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐฯ
บอกว่า “ศักราช ๙๕๒ ขาลศก วันอาทิตย์ แรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๘ สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงพระพฤฒาราช
นฤพาน” คือสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช สวรรคตในวันอาทิตย์ที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๑๓๓ หลังจากนั้น
ึ
สมเด็จพระนเรศวรฯ จงได้ขึ้นครองราชย์สืบต่อ ตรงกันกับตำนานพระเจ้ายอดคำทิพย์ ซึ่งสมเด็จพระนเรศวร
63
ฯ ได้มีใบบอกมายังเจ้าหนานสองเรีอน (ในฉบับที่ ๑) / เรืยน (ในฉบับที่ ๒) บุตรเจ้าหมื่นคำกอง (อดีตเจาเมือง
้
ั
ลับแลงไชย) กับนางแก้วช่อเทวี (ในฉบับที่ ๑) / นางเวียงแก้วช่อเทวี (ในฉบับที่ ๒) ให้เป็นเจ้าเมืองลบแลงไชย
ยกเวียงลับแลงไชยขึ้นกับเมืองพิไชย (พิชัย) ซึ่งเป็นหัวเมืองชั้นตรีในลุ่มแม่น้ำน่าน จากนั้นเจ้าหนานสองเรือนได ้
ั้
ิ
่
ทำพิธีสืบชะตาเมืองลับแลงไชยตามขนบจารีตเดมตั้งแตครั้งพระญาติโลกราชาฟ้าฮ่าม แล้ว “ตงข่วงพิธีไหว้สา
ั
แต่งขันน้ำขะมิ้น ส้มป่อย ดอกสาระปี ใบแหน่ง ข้าวของโภชนังมังสา ออกสระสรงยังโฮงหอเจ้าตนอารักษ์หลก
เวียง” คือการตั้งลานพิธี แล้วแต่งขันน้ำด้วยขมิ้น ส้มป่อย ดอกสารภี ใบแหน่ง และข้าวของโภชนาอาหารมา
ี่
ิ
สมโภชที่ “โฮง” อารักษ์หลักเวียง แล้วสร้างโฮงคำเจ้าตโลกราชฟ้าฮ่าม ในฉบับที่ ๑ เพิ่มข้อความจากฉบับท ๒
มาคือ “ออกข่วงสมโภชไคว่ครบ ๓ วัน ชาวฟ้อน ชาวเหล้น ชาวยิงชาวปี ม่วนงันค่ำเช้าชุมื้อ” อันเป็นมหรสพ
ื
้
ที่บรรยายในงานสมโภชสบชะตาเมือง ก็สำเร็จโดยถือเอา “วันเดือน ๖ เหนือ เป็น ๑๓ ค่ำ นับวันเจาพระญา
ตนเกล๊าเข้าเวียง” จึงถือว่าการสืบชะตาเมืองในครั้งนี้สอดคล้องกับประเพณแห่น้ำขึ้นโฮง สรงน้ำเจ้าฟ้าฮ่ามกุ
ี
มาร โดยที่ในปัจจบันไดยึดถือเอาวันขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๖ ตามปฏิทินจันทรคตของไทยใต้ โดยสาระสำคญของ
ั
้
ิ
ุ
ประเพณีคือการเลี้ยงผีหลวงหรืออารักษ์เมืองที่คอยดูแลเมืองลับแลงไชย เพื่อขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์อำนวยให้ฝนตก
63 ตรงใจ หุตางกูร, ๒๕๖๑, หน้า ๑๖๑.
การวิเคราะห์วรรณกรรมเมืองลับแล
หน้า ๑๑๓