Page 348 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 348
เหตุการณ์นี้พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐฯ บันทึกไว้ว่า “ศักราช ๘๑๓ (พ.ศ.
้
๑๙๙๔) มะแมศก ครั้งนั้นมหาราชมาเอาเมืองซากังราวได้แล้ว จึงมาเอาเมืองสุโขไทย เข้าปล้นเมืองมิไดก็เลิก
ั
ทัพกลับคืน” ซึ่งในการยกทพล้านนาในครั้งนี้ตามตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ไดยกทัพมาทางลุ่มแม่แม่น้ำน่าน
้
ไม่ได้มีการยกทัพไปตีเมืองสุโขทัยแต่เป็นการยกทัพมาเทครัวชาวเมืองพิษณุโลกกับชาวปากยม เหตุการณ ์
ตอนนี้ถูกกล่าวถึงใน ยวนพ่าย โคลงดั้น โคลงบทที่ ๘๓ ว่า
๏ แต่นี้จักตั้งต่อ กลกานต์ แลพ่อ
โดยเมื่อพระแสดงฤทธิ์ ร่อนแกล้ว
เสด็จมาผ่าผลาญลาว ลักโลภ
ที่ยุทธิษฐิรแล้ว สู่บร
ี่
แปลความว่า ตั้งแต่นี้สืบไปจะไปรบเอาเมือง และพระราชอาณาจักรคืนมา หลังจากทเจ้าพระญาตโลก
ิ
ราชนำพลมาลักเอาพระราชอาณาเขต และที่พระญายุธิษฐิระสองแควไปเข้ากับฝ่ายเชียงใหม่
เมื่อสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถทรงทราบว่าฝ่ายเชียงใหม่ได้ยกทัพมาเทครัวชาวเมืองสองแควไป
เชียงใหม่ก็ทรงจัดทัพมาจัดการพื้นที่เพื่อเฝ้าระวังฝายเชียงใหม่โดย ยวนพ่าย โคลงดั้น โคลงบทที่ ๙๑ ได ้
่
บอกว่า
๏ จึงตั้งข้าเรื้องราช วังเมือง แลนา
แทนยุทฐิษฐิระคืน ครอบหล้า
ครั้นเสร็จจึงจอมเลือง โลเกศวร์
กล่นเกลื่อนพลช้างม้า คล่าวไคล
สมเด็จพระบรมไตรโลกนารถ ทรงตั้ง หลวงราชวังเมือง ขุนนางตำแหน่งสมุหพระคชบาลซ้าย มีนาม
ตามตำแหน่งว่า หลวงราชวังเมืองสุริยชาติสมุหะพระคชบาลซ้าย นา ๓๐๐๐ รักษาราชการเมืองสองแควแทน
ั
พระญายุธิษฐิระ จากนั้นสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถจึงเคลื่อนทัพกลบไปพระนครศรีอโยธยา เมื่อมาถึงเมือง
เชียงใหม่ เจ้าพระญาติโลกราช โปรดให้พระญายุทธิษฐิระสองแควไปครองพันนาพูคา
มหาสรีธัมมติโลกราชะ : ติโลกราชกับอำนาจเหนือดินแดนเหนือล่าง
หน้า ๖๐