Page 354 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 354
ชะเลียง” พระญาเชลียงกลัวว่าบ้านเมืองจะเป็นอันตรายจากทัพเชียงใหม่ จึงขอเจรจาสงบศึกขอเป็นไมตรี
ื
“เป็นข้าพระเปนเจ้า” ทำให้เอกสารฝ่ายอโยธยาคอพระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐฯ บอกว่า
“ศักราช ๘๒๒ (พ.ศ. ๒๐๐๓) มะโรงศก ..ครั้งนั้นพญาชเลียงคิดขบถพาเอาครัวทั้งปวงไปออกแต่มหาราช”
่
แม้ว่าปีที่เกิดเหตุการณ์นี้ฝ่ายอโยธยาจะบอกไว้ช้ากว่าตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ไป ๑ ปีก็ตาม แต่ก็อยู่ในชวง
ระยะเวลาเดียวกัน จากนั้นพระญาติโลกให้ยกกองทัพไปตีเมืองสองแควอีกครั้งแต่ตีไม่ได้เพราะมีกองกำลังของ
เมืองกำแพงเพชรช่วยอยู่
พระญาเชลียงจึงกราบทูลว่า “ชาวเมืองปางพลมารั้งเวียงสองแฅวเสี้ยงแล้ว ดั่งพระเปนเจ้าจักไพ
เอาเมืองปางพล ค็ได้ชะแล” กองทัพล้านนาและทัพพระญาเชลียงจึงยกไปตีเมืองปางพล คือ เมือง
กำแพงเพชร ตอนนี้ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ออกชื่อพระญาเชลียงว่า “พระญาชะเลียงสุกโขทัย” จึงเป็นไปได ้
ที่พระญาเชลียงได้เมืองสุโขทัยแล้ว
ั
เมื่อไปถึงเมืองปางพล (กำแพงเพชร) ไม่สามารถตีเอาเมืองได้จึงยกทัพกลับมายังเมืองเชลียง (ศรีสชนา
้
ลัย) แล้วเจ้าพระญาติโลกราชทรงแต่งตั้งให้พระญาเชลียงครองเมืองเชลียง (ศรีสัชนาลัย) อย่างเดิม แลว
พระองค์ยกทัพกลับเมืองเชียงใหม่ แล้วให้หมื่นด้งนครและหมื่นเวียกอยู่รั้งเมืองเชลียง มีหน้าที่กำกับดแล
ู
ความสงบในเมืองเหล่านี้
ตรงกับพระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐฯ ว่า “ศักราช ๘๒๓ มะเส็งศก (พ.ศ. ๒๐๐๔)
พญาชเลียงนำมหาราชมาจะเอาเมืองพิศณุโลก เข้าปล้นเมืองเป็นสามารถมิได้เมือง แลจึงยกทัพเปรอไป
เอาเมืองกำแพงเพชร แลเข้าปล้นเมืองถึง ๗ วัน มิได้เมือง แลมหาราชก็เลิกทัพคืนไปเชียงใหม่” ซึ่งศักราช
ี
ในพระราชพงศาวดารอยุธยาในเหตุการณ์นี้เร็วกว่าเหตการณ์เดยวกันในตำนานพื้นเมืองเชยงใหม่อยู่ ๒ ปี จง
ี
ุ
ึ
เป็นไปได้ว่าเหตุการณ์และปีที่ถูกต้องควรตรงตามที่เอกสารฝ่ายล้านนาบอกไว้
ครั้งที่ ๕ รวบอำนาจเมืองเชลียงเปลี่ยนชื่อเป็นเชียงชื่น
้
ถัดมาใน พ.ศ. ๒๐๐๔ ปีร้วงไส้ (ปีมะเส็ง จ.ศ. ๘๒๓) พระญาเชลียงกลับใจเป็นกบฏต่อลานนาโดยวาง
กลอุบายให้หมื่นด้งนครเข้าไปตีไก่ด้วยแล้วจะจับหมื่นด้งนครฆ่าเสีย แต่เมื่อมีหนังสือมาถึงหมื่นด้งนคร ทานได ้
่
้
ส่งหนังสือไปทูลถามเจาพระญาติโลกราชทุกครั้ง กระทั่งครั้งที่สามหมื่นด้งจึงขอพระราชานุญาตวางกลอุบาย
เข้าไปในเมืองเชลียง หมื่นด้งนครเข้าไปที่เมืองเชลียงพร้อมกำลังพล ๑๐,๐๐๐ คน แล้วให้หมื่นพวกหาน หมื่น
เวียงดิน หมื่นม้า หมื่นเสิม หมื่นตาม ถือดาบคู่มือแล้วให้ไปซุ่มซ่อนอยู่ยังเมืองเชลียงทุกแห่ง ให้เขาเตรียมไฟไว้
้
ทุกคน สั่งว่า ถ้าได้ยินดังในเรือนพระญาเชลียง ผู้ใดอยู่ที่ไหน ให้เผาบริเวณนั้น จากนั้นหมื่นด้งนครได้เขาไปใน
ท้องพระโรงของพระญาเชลียงพร้อมด้วยคนอีก ๕,๐๐๐ คน ให้ยืนอยู่เบียดกันให้เต็มที่นั้น คนของพระญา
เชลียงอยู่ไม่ได้จึงหนีออกไปหมด ขณะนั้นพระญาเชลียงนั่งอยู่ในท้องพระโรง หมื่นด้งนครยืนอยู่ เจรจากับ
มหาสรีธัมมติโลกราชะ : ติโลกราชกับอำนาจเหนือดินแดนเหนือล่าง
หน้า ๖๖