Page 526 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 526
แต่ในหนังสือลักษณะและการใช้ภาษาไทย (บรรจบ พันธุเมธา) กล่าวว่าเสียงสระในภาษาไทย
มีอยู่ ๒๘ เสียงแยกเป๋นเสียงสระเดี๋ยว ๑๘ เสียง และสระผสม ๑๐ เสียง ซึ่งจะมีเสียงที่เกินจากเสียงสระแท ้
๒๔ เสียงของพระยาอุปกิตศิลปสารอยู่ ๔ เสียง ได้แก่ เสียงสระ เอา อาว ไอ อาย สองในสี่เสียงนี้ คือ เอา ไอ
เป็นเสียงที่ในสี่เสียงนี้ คือ เอา ไอ เป็นเสียงที่พระยาอุปกิตศิลปสารจัดว่าเป็นสระเกินส่วนเสียง อาว อาย นั้น
็
พระยาอุปกิตศิลปสารรไม่ได้แจงไว้ในเสียงสระ ในที่นี้ ผู้เขียนเห็นด้วยกับศาสตราจารย์ ดร.บรรจบ ในประเดน
ี
ี
ที่แจงเสียง อาว ไว้คู่กับเสียง เอา และแจงเสียงอาย ไว้คู่กับ ไอ เพราะ เอา-อาว ไอ-อาย เป็นเสยงเดยวกันแต ่
้
ต่างกันที่ความสั้นยาวของเสียงสระ ซึ่งก็เหมือนกับสระคู่อื่น ๆ ในภาษาไทย เช่น อิ-อี, อุ-อู เป็นตน
้
ศาสตราจารย์ ดร.บรรจบไม่ได้รวมเสียง อำ ไว้ด้วยเหตุผลเดียวกับพระยาอุปกิตศิลปสาร คือเห็นว่าแทจริงเป็น
เสียงผสมของสระกับพยัญชนะสะกดที่เกิดจากเสียง [อะ+ม] จึงไม่ใช่เสียงสระจริง ๆ ณ จุดนี้คำถามจึงมีว่า
ทำไม ศาสตราจารย์ ดร.บรรจบไม่จัดเสียง เอา อาว ไอ อาย ว่าเป็นเสียงที่เกิดจากการผสมเสียงสระและ
้
พยัญชนะเหมือนของพระยาอุปกิตศิลปสาร ซึ่งสามารถมองไดว่าเป็นเสียง [อะ+ว] [อา+ว] [อะ+ย] [อา+ย]
เรื่องนี้ศาสตราจารย์ ดร.บรรจบได้ให้คำอธิบายไว้ว่าเสียง [ว] และ [ย] นั้นเป็นเสียงที่มีคุณสมบัติทั้งสระและ
พยัญชนะ เมื่อเป็นตัวสะกดนั้น [ว] ออกเสียงเหมือนกับ [อา+อี] แต่ถ้าหากเราจัดให้เสียงตัวสะกด [ว] [ย] เป็น
ี
เหมือนเสยงสระตามศาสตราจารย์ ดร.บรรจบ สระในภาษาไทยก็อาจมีสระผสมสามตัวไดเช่น เอียว เป็น เสยง
้
ี
[อี+อา+อู] เอือย เป็นเสียง [อื+อา+อี] ดังนั้น จำนวนสระผสมจึงน่าจะมีมากกว่า ๑๐ เสียงตามที่ศาสตราจารย์
ดร.บรรจบ เสนอดังนั้น เพื่อให้คำอธิบายเรื่องเสียงสระเป็นไปแบบเรียบง่าย ผู้เขียนจึงพิจารณาให้เสียง
พยัญชนะสะกด [ว] และ [ย] เป็นเสียงพยัญชนะไม่ใช่เสียงสระ จึงไม่เกิดปัญหาว่าทำไมจึงไม่มีเสียงสระผสม
ี
เช่น เอียว[อี+อา+อู] แต่มีเสียงสระผสม เอา [อะ+วะ หรือ อะ+อู] ดังนั้น ผู้เขียนจึงถือว่าเสยงสระภาษาไทยมี
๒๔ เสียงตามพระยาอุปกิตศิลปะสาร ที่กำหนดให้โดยไม่นับส่วนที่เป็นสระเกิน ๘ เสียง ได้แก่ อะ อา อิ อี อึ อื
อุ อู เอะ เอ แอะ แอ โอะ โอ เอาะ ออ เอ แอะ แอ โอะ โอ เอาะ ออ เออะ เออ เอียะ เอีย เอือะ เอือ อัวะ อัว
โดยแยกเป็นสองประเภท ดังนี้
เสียงสระเดี่ยว ๑๘ เสียง ได้แก่ อะ อา อิ อี อึ อื อุ อู เอะ เอ โอะ โอ เอาะ ออ เออะ เออ
เสียงสระผสม ๖ เสียง ได้แก่ เอียะ [อิ+อะ] เอีย [อี+อา] เอือะ [อึ+อะ] เอือ [อื+อา] อัวะ [อุ+อะ] อัว [อู+อา]
นอกจากการแยกประเภทเสียงสระเป็นสระเดียวหรือสระผสมแล้ว เสียงสระเหล่านี้อาจจัดแยกตาม
ลักษณะตำแหน่งของลิ้นในเวลาออกเสียงว่าอยู่ในตำแหน่งใด แยกเป็นสระหน้า สระกลาง สระหลัง และสระสูง
สระกลาง สระต่ำ แต่ในที่นี้จะไม่กล่าวถึงรายละเอียดในเรื่องนี้ ผู้สนใจสามารถอ่านไดเพิ่มเติมจากหนังสือท ี่
้
เกี่ยวข้องกับสัทศาสตร์ภาษาไทยทั่วไป เช่น ระบบเสียงภาษาไทย (กาญจนา นาคสกุล) ลักษณะและการใช ้
ภาษาไทย (บรรจบ พันธุเมธา)
เสียงสระเหล่านี้สามารถเขียนแทนด้วยสัทอักษร ซึ่งเป็นตัวอักษรที่นักภาษาศาสตร์ใช้เป็น
่
มาตรฐานสากลในการเขียนแทนเสียงตาง ๆ ในภาษา ดังแสดงข้างล่างของแต่ละเสียงสระดังนี้
การศึกษาเปรียบเทียบสมมุติฐานเมืองซาก (ทราก) ฯ
หน้า ๔๐