Page 606 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 606
ในระดับนครคู่ขนานกัน ๔ เมือง คือ สุโขทัยกับศรีสัชนาลัย และสระหลวงกับสองแคว โดยศาสตราจารย์
(พิเศษ)ศรีศักร วัลลิโภดมเห็นว่าเมืองทุ่งยั้งเป็นเมืองโบราณขนาดใหญ่ไล่เลี่ยกันกับเมืองสุโขทัย ศรีสัชนาลัย
และพิษณุโลก ทั้งยังมีโบราณสถาน โบราณวัตถุที่มีอายุอยู่ในสมัยสุโขทัยตอนต้นเช่นเดียวกัน ตลอดจนตั้งอยู่ใน
้
็
ิ
ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์การเมืองที่สัมพันธ์กับเส้นทางคมนาคมกับบานเมืองภายในและภายนอกได้รอบทศ เหน
์
ได้จากเหตุการณทางประวัติศาสตร์ครั้งพ่อขุนผาเมืองและพ่อขุนบางกลางหาวยกกองทัพมาตสโขทยจากขอม
ั
ี
ุ
้
สบาดโขลญลำพง และเหตุการณในสมัยอยุธยา ครั้งสงครามระหว่างสมเดจพระบรมไตรโลกนาถกับพระเจาต ิ
็
์
ื่
ิ
โลกราชตามที่ปรากฏในลิลตยวนพ่าย รวมทั้งเรื่องราวในตำนาน พงศาวดารเหนือ ที่กล่าวถึงกัมโพชนครซึ่งเชอ
่
กันว่าคือเมืองทุ่งยั้ง นักโบราณคดีรุ่นก่อน ๆ ไม่รู้จักเมืองทุ่งยั้งว่าเป็นอย่างไร รูปร่างเป็นแบบไหน แต่รู้จักแหลง
โบราณคดีในบริเวณเมืองทุ่งยั้งเพียงแห่งเดียวคือ เวียงเจ้าเงาะ ที่มีผู้พบกลองสำริดและภาชนะสำริดสมัย
ราชวงศ์ฮั่น ซึ่งได้นำมาจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ทำให้เกิดความคิดว่าเวียงเจ้าเงาะ
คือเมืองในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่มีอายุแต่ ๒,๐๐๐ ปีลงมา แต่ในการออกไปสำรวจศึกษาของอาจารย์มานิต
ั้
ี่
วัลลิโภดม และข้าพเจ้า ทำให้ทราบว่า เวียงภายในเมืองทุ่งยั้งน่าจะมีอายุในสมัยเดียวกัน เป็นเมืองทตงอยู่เนิน
เขาและที่สูงในลักษณะเดียวกันกับเมืองและเวียงต่าง ๆ ในเขตแคว้นล้านนา ที่มีลักษณะรูปร่างไม่สม่ำเสมอ
หลายช่วงตอน และหลายเมืองก็มีทั้งที่เป็นเวียงเล็กอยู่ภายในเมืองเช่น เวียงเจ้าเงาะ เป็นต้น
ึ
นอกจากนี้จากการศกษาสำรวจข้าพเจ้าเมื่อเร็ว ๆ นี้ บริเวณชุมชนเมืองลบแลของคนลานนา
ั
้
ที่เคลื่อนลงมาแต่พุทธศตวรรษที่ ๒๑ ครั้งสงครามเชียงใหม่-อยุธยานั้น เป็นชุมชนที่มีมาก่อนแล้ว โดยมี
หลักฐานทางโบราณคดี ๒ สมัยแสดงให้เห็นชัดคือ สมัยแรก เป็นยุคก่อนประวัติศาสตร์ราว ๒,๐๐๐ ปีลงมา
ตำแหน่งสำคัญของชุมชนอยู่ที่ปลายเนินเขา ๓ ลูกที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกของคลองแม่พร่อง เป็นบริเวณที่เป็น
แอ่งที่ลาดลุ่มต่ำซึ่งมีลำคลองแม่พร่อง เป็นบริเวณที่เป็นแอ่งที่ลาดลุ่มต่ำซึ่งมีลำคลองแม่พร่องผ่ากลาง
โดยเฉพาะทางซีกซ้ายของที่ลาดลุ่มซึ่งมีเนินเขา ๓ ลูกมาจดที่ลำคลองแม่พร่อง ซึ่งปัจจุบันมีฝายหลวงแบงน้ำ
่
และกระจายน้ำไปยังที่ลาดลุ่มทั้ง ๒ ฝั่งของคลองแม่พร่อง อันเป็นแอ่งใหญ่ก่อนจะสู่พื้นที่ลุ่มต่ำน้ำท่วมถึงใน
บริเวณเมืองทุ่งยั้งที่ตั้งอยู่ปลายคลองแม่พร่อง ลำคลองแม่พร่องไหลผ่ากลางที่ลาดลุ่มของแอ่งลงใต้ มายัง
ี
บริเวณที่เป็นชุมชนเมืองลับแลมีการสร้างบ้านเรือนทั้งสองฝั่งลำน้ำมาจนถึงเมืองลับแล และการสร้างถิ่นท่อยู่
อาศัยในที่ลาดลุ่มที่มีม่อนเล็กใหญ่กระจายอยู่ตามชายเขา โดยเฉพาะม่อนใหญ่อันเป็นที่ตั้งของวัดเก่าแก่สมัย
อยุธยาตอนปลายคือ วัดดอนสัก หลักฐานสมัยก่อนประวัติศาสตร์พบบนยอดเขา ๓ ลูกที่ตรงปลายเนินเขาเป็น
วัดม่อนพัฒนาราม และที่ตั้งของอนุสาวรีย์เจ้าฟ้าฮ่ามกุมาร และเป็นบริเวณที่มีการสร้างฝายหลวงครั้งรัชกาลท ี่
๖ บนยอดเขาลูกแรก พระสงฆ์และชาวบ้านพบหลุมฝังศพคนก่อนประวัติศาสตร์ พบเครื่องประดับและ
เครื่องมือหิน รวมทั้งภาชนะดนเผาอันเป็นของอุทศให้กับศพหลายชนิด แต่ที่เตะตาก็คือกำไลหินขัดสเขียวทด ู
ี
ิ
ิ
ี่
สวยงามและทำด้วยหินมีค่า อันแสดงให้รู้ว่าคนตายน่าจะเป็นผู้มีสถานภาพทางสังคม เพราะศพถูกฝังอยู่บน
ยอดเขาที่ถูกปรับให้ราบเพื่อเป็นพื้นที่ทางพิธีกรรม พระสงฆ์ท่วัดม่อนพัฒนารามซึ่งเป็นวัดสำคัญของเขาลกนี้
ี
ู
ได้นำโบราณวัตถุที่พบมาจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ของวัด และกำลังสร้างพระพุทธรูปใหญ่ขึ้นบนยอดเขา เพื่อ
เป็นที่เคารพบูชาของคนเมืองลับแล ข้าพเจ้าได้เห็นบรรดาโบราณวัตถุที่พบบนยอดเขา รวมทั้งได้สอบถาม
ิ
ั
ความรู้เกี่ยวกับแหล่งศกดิ์สทธิ์บนเขานี้จากพระและชาวบ้านทให้ข้อมูลว่า ในความรับรู้ของคนทองถิ่นนั้น เขา
ี่
้
ลูกนี้เป็น ๑ ในเขาอีก ๒ เขาที่อยู่ถัดไปด้านหลังอีก ๒ ลูก แต่ยังไม่ได้รายละเอียดถึงสิ่งที่ผู้รู้ในท้องถิ่นพบเห็น
การศึกษาเปรียบเทียบสมมุติฐานเมืองซาก (ทราก) ฯ
หน้า ๑๒๐