Page 608 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 608
ภาพที่ ๗๐ แผนทแสดงตำแหน่งโบราณสถานเมืองลับแลง
ี่
ั
ที่มา : คณะกรรมการศึกษาประวัติศาสตร์เมืองลับแล (เมืองลบแลง), ๒๕๖๒
นอกจากนั้นในบันทึกตำนานฉบับเก๊าพระเจ้ายอดคำทิพย์ วัดลับแลงหลวง ได้ปรากฏคำว่า
ุ่
เมืองซากสระหนองหลวง โดยผู้ศึกษามีความเห็นว่า เมืองซากหรือทราก อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของเมืองทงยั้งใน
อดีตโดยมีฐานะเป็นเมืองด่านของเมืองสระหลวงและเป็นด่านสำคัญที่กั้นระหว่างรัฐสุโขทัยกับรัฐล้านนาซึ่ง
ปัจจุบันน่าจะเป็นที่ตั้งของเมืองลบแลง อันเป็นชุมชนซึ่งเกิดขึ้นใหม่ของเมืองทุ่งยั้ง เนื่องจากทตงของเมืองลบ
ั้
ั
ั
ี่
แลงโบราณตั้งอยู่คู่ขนานลำน้ำน่านและลำน้ำยมอันเป็นที่ราบลุ่มเช่นเดียวกับเมืองสระหลวง(ทุ่งยั้ง)
อีกประการหนึ่ง ในศิลาจารึกสุโขทยตั้งแต่สมัยพระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พญาลิไท) มีการ
ั
กล่าวถึงเมืองสำคัญอันเป็นที่ประดิษฐานพระมหาธาตเจดีย์ ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองในระดับนคร ๔ แห่ง คอ
ุ
ื
สุโขทัย-ศรีสัชนาลัยบนลำน้ำยม และเมืองสระหลวงสองแควบนลำน้ำน่าน ซึ่งมีความเนื้อหาสอดคล้องกับ
บันทึกตำนานฉบับเก๊าพระเจ้ายอดคำทิพย์ที่กล่าวว่า “กาละล่วงไปเถิงขุนองค์ฅำลือไท ตนเป็นใหญ่ในโลก
หล้าและยกเวียงสระขึ้นกับเวียงเชลียง แล้วจิ่งได้ผาถะนายังพระศาสนาองค์พุทธเจ้านำเอากระดูกเจ้า
ิ
ธาตุฅำลุกมาแต่ในเวียงไธย จึ่งได้มาแป๋งแต่งสร้างยังองค์พระธาตุเจ้าเจตยา ตั้งอารามพิหารใหญ่กวาง บน
้
ม่อนป่าแก้วดอยงาม ชื่อว่า “เจติยะพิหารอารามคีรีเขต” ตามภาพที่ ๗๑ โดยมีหลักฐานจากการพบจารึก
ในวัดเจดีย์คีรีวิหาร เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๓ ภายหลังเรียกว่า จารึกหลักที่ ๓๑๙ เจดีย์พิหาร” ในเนื้อความจารึกระบุ
ว่า “เขาเสวยราชในเมิอ(ง) ปีเมสญ แต(มา)ไดเจดปีจิงกพระเจดี”ซึ่งศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร ให้
การศึกษาเปรียบเทียบสมมุติฐานเมืองซาก (ทราก) ฯ
หน้า ๑๒๒