Page 610 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 610

๖.๒ บทความ “ชากังราวไม่ใช่กำแพงเพชร เมืองชากังราวอยู่ที่ไหน”
                              จากบทความ“ชากังราวไม่ใช่กำแพงเพชร เมืองชากังราวอยู่ที่ไหน” โดยนิพัทธพงศ์  พุมมา
               ผู้ศึกษาพบว่าคำว่า “ชากังราว” นั้นมีความหมายแปลว่า ด่าน ตามบทความที่ว่า “หากเปรียบเทียบกับรูปคำ
                                                 ้
               “ชากังราว” เป็นคำบาลี ออกเสียงแบบลานนาว่า “ซา - กะ - ราว / ชา - คะ - ราว” ซึ่งจะเป็น “ชาคราว” /
               ชาวกราว” ได้ และรูปคำ “ชากังราว / ซากะราว / ชะคราว” ยังพ้องเสียงกับชื่อเมือง “ซาก” หรือข้อมูล
                                                                                                   ี่
                                                                                                 ู้
               อาจารย์พิเศษ  เจียจันทร์พงษ์ นักประวัติศาสตร์ ได้ให้ข้อมูลและอ้างถึงอาจารย์จำปา  เยื้องเจริญ ผเชยวชาญ
               ทางด้านภาษามอญโบราณ ได้แยกศัพท์จากคำว่า “ ชา ” ในภาษามอญเขียนกล้ำเป็น “ ผชา ” มีตัว “ ผ ”
               ตัว  “ ช ”  กล้ำกันอยู่ แต่ในเวลาพูดออกมาเป็น “ชา” เลยซ้ำ คำว่า “ชา” แปลว่า  ตลาด + “กัง” แปลว่า
               ด่าน + “ราว” แปลว่า หนทาง ดังนั้น “ชากังราว” ก็คือ เมืองด่าน ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยตลาดและหนทางซึ่ง
               อาจเป็นชุมทางการค้า”
                              ในการวิเคราะห์ดังกล่าวเมืองชากังราวอาจจะเป็นอีกชื่อเรียกหนึ่งของคำว่า เมืองซากท ี่
               ปรากฏในตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่และพงศาวดารโยนก และเป็นเมืองเดียวกันกับเมืองชวาชกํ ที่ปรากฏใน

               จารึกวัดอโสการาม ซึ่งเป็นเมืองที่ด่านสำคัญที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่านอันเป็นเขตกั้นระหว่างรัฐสยามกับล้านนา
                              ในกรณที่ว่า ถ้าเมืองชากังราว หมายถึงเมืองด่านสำคัญที่กั้นเขตระหว่างรัฐสยามกับรัฐล้านนา
                                    ี
                                                                                                 ั้
                            ่
               น่าจะหมายถึงดานหอรบทุ่งเสลี่ยมหรือไม่? ผู้ศึกษาเห็นว่าน่าจะไม่ใช่เนื่องจากเมื่อพิจารณาจากทตงของเมือง
                                                                                               ี่
                                                                                                      ั
               ชากังราว (ชวาชกํ ชคราว ชากังราว ชาการาว) ที่ปรากฏในจารึกวัดอโสการามอยู่ทางทิศเหนือของรัฐสุโขทยซึ่ง
                                                                                             ั
                                                                            ี
                                                                                          ุ
               หอรบทุ่งเสลยมมิได้อยู่ทางทศเหนือของรัฐสุโขทยแต่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉยงเหนือของรัฐสโขทยและสร้างขึ้น
                          ี่
                                                       ั
                                       ิ
               ในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ

                              จากการศึกษาของผู้ศึกษาพบว่าพื้นที่อำเภอลับแลปัจจุบันโดยเฉพาะเมืองลับแลงโบราณมี
               ฐานะความเป็นด่านมาตั้งแต่พระมหาธรรมราชา(ลิไท)แห่งรัฐสุโขทัยจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ดังปรากฏจาก
               หลักฐานเอกสารประวัติศาสตร์ เอกสารสมุดไทยคำ ท้ายธัมม์ของใบลาน และโบราณสถานในพื้นที่ดังต่อไปนี้
                              ๖.๒.๑  จารึกหลักที่ ๓๑๙ เจดีย์พิหาร

                              หลักฐานในจารึกหลักที่ ๓๑๙ เจดีย์พิหาร ด้าน ๒ อันเป็นจารึกที่สร้างขึ้นในสมัยสมัยพระญา
                                               ้
               ลิไท โดยเนื้อความนี้กรมศิลปากรมิไดอ่านและปริวรรตแต่อย่างใด ผู้ศึกษาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการ
               ศึกษาประวัติศาสตร์เมืองลับแล (เมืองลับแลง) ได้นำเนื้อความนี้ให้ผู้เชี่ยวชาญด้านจารึกปริวรรตได้ข้อความ
               ดังนี้ “ขพง ๑ นิมิเกาะ ๑ สรไวอายธหรจฺคุดูผก”ซึ่งแปลความจากเนื้อความที่ปริวรรตแล้วความว่า  สันเขาหนึ่ง

               นี้มีเกาะหนึ่งสระไว้เป็นด่านทหารดูสอดแนม เนื่องจากในเนื้อความจารึกพบคำว่า ไวอายธหรจคุดูผก (ไว้อ่าย
               ทหารจักขุดูผก) ซึ่งคำว่า อ่ายนั้น ในพจนานุกรมฉบับล้านนา-ไทย ฉบับ แม่ฟ้าหลวงพบว่า คำว่า “อ่าย”
               หมายถึง ด่านในภาษาไทยกลาง

                                                                          ี่
                              ดังนั้นจากหลักฐานนี้ผู้ศึกษามีความคิดเห็นว่าบริเวณทตั้งเมืองลับแลงโบราณมีความเป็นเมือง
               ด่านสำคัญมาตั้งแต่รัฐสุโขทัยหลักฐานการปริวรรตเนื้อความในจารึกหลักที่ ๓๑๙ เจดีย์พิหาร ตามภาพที่ ๗๒






                                       การศึกษาเปรียบเทียบสมมุติฐานเมืองซาก (ทราก) ฯ
                                                        หน้า ๑๒๔
   605   606   607   608   609   610   611   612   613   614   615