Page 699 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 699
ื
คร่าวบทที่ ๑๖๖ ยังกล่าวว่า หื้อแปงยุ้งเยีย แต่งตั้งวางไว ขับขนข้าวมาชวาง ละไล้ คอมีคำสงให้สร้าง
ั่
้
ยุ้งฉางแล้วให้นำข้าวมาเทใส่ไว้
คร่าวบทที่ ๑๖๗- ๑๖๘ กล่าวว่า แต่งลูกทัพ ออกไปสะลืน หาเอาคน บางพร่องก่ได้ ความนี้หมายถึง
พม่าให้ทหารออกไปหาเอาผู้คนบางครั้งก็พบเจอเข้าโดยบังเอิญ ไปตีปาง เอาแม่ชาวใต้ มาเป็นเพื่อนนอน นวด
ั่
ฟั้น ชุมแก่เฒ่า พอใดพอนั้น ก็เอาไว้นึ่งข้าว สุมไฟ หมายถึง ทหารพม่าเข้าโจมตีที่พักแรมในป่าที่สร้างขึ้นชวคราว
่
ู
ได้หญิงชาวใต้มาเป็นคู่นอน ส่วนที่เป็นคนแก่ก็ให้คอยมาดแลเรื่องการทำอาหารหรือทำงานอื่น ความตรงนี้กลาวถึง
ชาวใต้ ซึ่งน่าจะหมายถึงชาวลับแล เพราะในอดตเมืองใต้สำหรับชาวล้านนาคืออยุธยาซึ่งหมายรวมถึงเมืองใน
ี
ขอบเขตการปกครองของอยุธยาไว้ด้วย มีการกล่าวถึงเมืองลับแลหรือเมืองลับแลงในคร่าวสี่บทของพญาพรหม
ี
ื
้
ี่
โวหารกวีเอกของลานนาว่า ลับแลงแคว้นใต้ มีสิ่งหนึ่งที่ควรสังเกตคอ การที่ทหารพม่าไปบุกตปาง หรือทพักแรม
ั
ชั่วคราวในป่านั้น แสดงให้เห็นว่าในขณะนั้นผคนชาวลบแลคงหนีพม่าออกจากตัวเมืองทิ้งบ้านเรือนทเคยอาศยไป
ั
ี่
ู้
อยู่ตามป่าตามเขาและสร้างที่พักแรมชั่วคราวหรือปางขึ้น
คร่าวบทที่ ๑๖๘- ๑๗๑ กล่าวความไว้อย่างน่าสนใจกรณีเมืองพิชยแต่งหลวงวังเป็นผู้นำช้าง ม้า วัว ควาย
ั
ิ
ทรัพย์สนและผู้คนเข้าถวายเป็นข้าแก่กษัตริย์อังวะ ยังความยินดีแก่แม่ทัพพม่ายิ่งนัก
คร่าวบทที่ ๑๗๑ – ๑๗๓ กล่าวว่า เดือน ๓ แรม ๑๑ ค่ำ (ศุกร์ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๓๑๖) โป่ซุกมัง หรือ
โป่สุพลา มีคำสั่งให้กองทัพเมืองยองเป็นทัพหน้าเคลื่อนทัพออกจากค่ายในวันรุ่งขึ้น(เสาร์ ๑๑ ธันวาคม พ.ศ.
๒๓๑๖) ให้หัวหมู่นายทหารม้า ๕ คนเป็นหลักอยู่รั้งค่ายพร้อมกับปืนใหญ่ ๕๐ ลำ รวมเวลาแล้วทัพพม่าตั้งอยู่ท ี่
เมืองลับแลได้สิบวันเต็มจึงออกเดินทางเคลื่อนทัพต่อไปยังปางแก้ว หนองบัว
ึ
เหตุการณ์หลังจากนั้นทัพพม่าก็บุกเข้าโจมตีค่ายสุโขทัยแตกแล้วจงบุกเข้าตีเมืองพิษณุโลกแต่พ่ายแพ้หนี
ทัพแตกกลับมาตั้งหลักที่ค่ายเมืองลับแล
ด่านของเมืองลับแล
หน้า ๖๒