Page 218 - การประชุม HACC Forum ครั้งที่ 13
P. 218
214
09-17 Poster Presentation
ชื่อเรื่อง : ป้องกันการเกิดคลอดติดไหล่
ผู้นำเสนอ : จินตนา ชาญสูงเนิน เบอร์โทรศัพท์ : 08 5269 5369
หน่วยงาน: โรงพยาบาลบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ
ความเป็นมาและความสำคัญ : การคลอดติดไหล่เป็นภาวะฉุกเฉินทางสูติกรรมที่พบได้ทั่วโลก อุบัติการณ์ร้อยละ0.2-
35 และเป็นการยากที่จะทำนายว่าทารกคนใดจะเกิดการคลอดติดไหล่ จึงมีความจำเป็นในการคำนวณน้ำหนักตัวเด็ก
เพื่อไม่ให้เกิดการคลอดติดไหล่ และป้องกันภาวะแทรกซ้อนและลดอันตรายที่จะเกิดต่อมารดาเช่น มดลูกแตก ตก
เลือด แผลลึก และต่อเด็กเช่นอาจเกิดภาวะ Birth Asphyxia ซึ่งอาจจะเกิดพัฒนาการที่ล่าช้า หรือมีความพิการ และ
อันตรายถึงเสียชีวิตตามมา ซึ่งจากการทบทวนการคลอดติดไหล่ ปี 2558, 2559, 2560 มีการคลอด 476, 515, 509
ราย คลอดติดไหล่ 14, 10, 8 ราย มารดามีภาวะตกเลือด 5, 4, 2 ราย ลูกเกิด Birth Asphyxia 4, 4, 2 ราย Erb's
palsy 1,1,0 ราย และมีเด็กเสียชีวิต 0, 0, 1 ราย ตามลำดับ ดังนั้นทางห้องคลอดโรงพยาบาลบำเหน็จณรงค์ จึง
ตระหนักถึงปัญหาและผลเสียที่เกิดขึ้นจึงได้ทบทวนวิเคราะห์สาเหตุ พบว่าเกิดจากการคาดคะเนน้ำหนักทารกในครรภ์
ผิดพลาด และเพื่อเพื่อหาแนวทางป้องกันจึงได้ทำการพัฒนางานเพื่อป้องกันการเกิดการคลอดติดไหล่ ขึ้น
กิจกรรมการพัฒนา :
1. ศึกษาปัญหาจากการทบทวนเวชระเบียนและนำมาประชุมปรึกษาหารือร่วมกับสูติแพทย์
2. ทบทวนหลักฐานเชิงประจักษ์เกี่ยวกับการประเมินน้ำหนักทารกในครรภ์
3. นำการคำนวณน้ำหนักทารกในครรภ์ทั้ง 4 วิธีมาเปรียบเทียบกับน้ำหนักเด็กเมื่อคลอดจริง ดังนี้ 3.1 วัด
ความสูงของยอดมดลูก 3.2 Johnson’s Rule 3.3 วิธีวัดรอบสะดือ 3.4 จากการอัลตราซาวด์
4. จากการทดลองทั้ง4วิธี ในหญิงตั้งครรภ์ 30 ราย พบว่าทำการคำนวณน้ำหนักทารกในครรภ์ของ
Johnson’s Rule เป็นวิธีที่คาดคะเนได้ใกล้เคียง 300 กรัม ถึงร้อย 31.38 และจากการอัลตราซาวด์ร้อยละ
21.82 จึงได้มีการนำเครื่องมือในการประเมินน้ำหนักของ Johnson’s Rule มาทดลองใช้ แต่มีการ
ประยุกต์วิธีการวัดโดยใช้สายวัดเป็นเซนติเมตรซึ่งจากทฤษฎีวัดจากบริเวณ Symphysis pubis ขึ้นไปหา
HOF ซึ่งเมื่อลองมาปฏิบัติจริงพบว่า จากการประเมินในหญิงตั้งครรภ์ 200 ราย มีภาวะคลาดเคลื่อนเกิน
300 กรัม ร้อยละ 48.92 ถึงแม้จะใกล้เคียง 300 กรัมมากขึ้น แต่ก็ยังเป็นค่าที่น้อย ทำการทดลองในหญิง
ตั้งครรภ์ 300 รายพบว่ามีภาวะคลาดเคลื่อนไม่เกิน 300 กรัม สูงถึงร้อยละ 83.60
บทเรียนที่ได้รับ : 1) การทำงานเป็นทีม และความร่วมมือ คือปัจจัยแห่งความสำเร็จของการพัฒนาคุณภาพ 2)
กระบวนการดูแลผู้ป่วยที่มีประสิทธิภาพ เกิดจากการทบทวนวิเคราะห์สาเหตุ และหาแนวทางป้องกัน รวมถึงการ
ติดตามผลอย่างต่อเนื่อง 3) มีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการทำงานทำให้คนไข้ปลอดภัยจากการคลอดติดไหล่